ดัชนีความเชื่อมั่นของประชาชนในภาคใต้ ด้านเศรษฐกิจและสังคม เดือนกุมภาพันธ์ 2563
ศูนย์วิจัยนวัตกรรมทางธุรกิจ คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยหาดใหญ่ ได้ดำเนินการจัดทำดัชนีความเชื่อมั่นของประชาชนในภาคใต้ ด้านเศรษฐกิจและสังคม โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อวัดการเปลี่ยนแปลงของ สภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจและสังคมของประชาชนในภาคใต้ เก็บแบบสอบถามกับกลุ่มตัวอย่างจากประชาชนในพื้นที่ 14 จังหวัดภาคใต้ จำนวน 420 ตัวอย่าง
ผลการสำรวจความเชื่อมั่นของประชาชนในภาคใต้ ด้านเศรษฐกิจและสังคม เดือน กุมภาพันธ์ เปรียบเทียบเดือนมกราคม และคาดการณ์ในอีก 3 เดือนข้างหน้า
รายการข้อคำถาม | มกราคม | กุมภาพันธ์ | คาดการณ์ใน 3 เดือนข้างหน้า | ||||||||
เพิ่มขึ้น/ | คงที่/ | ลดลง/ | เพิ่มขึ้น/ | คงที่/ | ลดลง/ | เพิ่มขึ้น/ | คงที่/ | ลดลง/ | |||
ดีขึ้น | เท่าเดิม | แย่ลง | ดีขึ้น | เท่าเดิม | แย่ลง | ดีขึ้น | เท่าเดิม | แย่ลง | |||
1. ภาวะเศรษฐกิจโดยรวม | 24.60 | 49.30 | 26.10 | 24.10 | 44.70 | 31.20 | 34.70 | 51.70 | 13.60 | ||
2. รายได้จากการทำงาน | 25.40 | 46.50 | 28.10 | 24.50 | 45.80 | 29.70 | 32.80 | 54.10 | 13.10 | ||
3. รายจ่ายเพื่อซื้อสินค้าอุปโภค บริโภคที่จำเป็นในครอบครัว | 37.10 | 42.60 | 20.30 | 36.70 | 44.40 | 18.90 | 39.70 | 45.10 | 15.20 | ||
4. รายจ่ายด้านการท่องเที่ยว เช่น การเดินทาง ที่พัก อาหาร และอื่น ๆ | 26.80 | 44.60 | 28.60 | 24.40 | 42.10 | 33.50 | 28.80 | 57.20 | 14.00 | ||
5. ความสุขในการดำเนินชีวิต | 29.40 | 49.30 | 21.30 | 29.10 | 47.20 | 23.70 | 24.20 | 53.10 | 22.70 | ||
6. ฐานะการเงิน (รายได้หักรายจ่าย) | 26.90 | 47.20 | 25.90 | 26.30 | 45.80 | 27.90 | 28.40 | 60.30 | 11.30 | ||
7. การออมเงิน | 28.40 | 46.60 | 25.00 | 27.70 | 48.20 | 24.10 | 37.40 | 45.20 | 17.40 | ||
8. ค่าครองชีพ | 28.70 | 45.20 | 26.10 | 29.50 | 44.60 | 25.90 | 36.10 | 52.00 | 11.90 | ||
9. ภาระหนี้สิน | 28.40 | 46.20 | 25.40 | 28.90 | 48.60 | 22.50 | 36.20 | 47.60 | 16.20 | ||
10. ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน | 24.50 | 48.40 | 27.10 | 22.70 | 45.80 | 31.50 | 36.70 | 51.30 | 12.00 | ||
11. การแก้ปัญหายาเสพติด | 25.70 | 47.50 | 26.80 | 26.10 | 48.20 | 25.70 | 22.70 | 51.20 | 26.10 | ||
12. การแก้ปัญหาเศรษฐกิจ | 24.20 | 45.90 | 29.90 | 24.10 | 44.60 | 31.30 | 34.60 | 45.20 | 20.20 | ||
13. การแก้ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ | 26.10 | 48.80 | 25.10 | 24.70 | 46.20 | 29.10 | 30.40 | 48.90 | 20.70 | ||
ความเชื่อมั่นของประชาชนในภาคใต้ ด้านเศรษฐกิจและสังคม เดือน ธันวาคม 2562 มกราคม และกุมภาพันธ์ 2563
รายการข้อคำถาม | ธันวาคม | มกราคม | กุมภาพันธ์ |
1. ภาวะเศรษฐกิจโดยรวม | 47.20 | 46.40 | 44.30 |
2. รายได้จากการทำงาน | 41.30 | 42.40 | 42.10 |
3. รายจ่ายเพื่อซื้อสินค้าอุปโภค บริโภคที่จำเป็นในครอบครัว | 46.60 | 48.20 | 47.50 |
4. รายจ่ายด้านการท่องเที่ยว เช่น การเดินทาง ที่พัก อาหาร และอื่น ๆ | 44.30 | 43.40 | 40.70 |
5. ความสุขในการดำเนินชีวิต | 47.10 | 48.30 | 47.60 |
6. ฐานะการเงิน (รายได้หักรายจ่าย) | 42.10 | 42.80 | 41.50 |
7. การออมเงิน | 44.80 | 44.10 | 43.60 |
8. ค่าครองชีพ | 35.50 | 37.20 | 38.70 |
9. ภาระหนี้สิน | 34.70 | 35.10 | 37.80 |
10. ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน | 40.20 | 38.60 | 36.10 |
11. การแก้ปัญหายาเสพติด | 48.30 | 47.90 | 49.20 |
12. การแก้ปัญหาเศรษฐกิจ | 40.20 | 39.50 | 38.80 |
13. การแก้ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ | 35.10 | 36.40 | 35.10 |
14. ความเชื่อมั่นของประชาชนโดยรวม | 45.80 | 44.20 | 43.40 |
ผศ.ดร.วิวัฒน์ จันทร์กิ่งทอง ผู้จัดการศูนย์วิจัยนวัตกรรมทางธุรกิจ รายงานผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นของประชาชนในภาคใต้ ด้านเศรษฐกิจและสังคม พบว่า ในเดือนกุมภาพันธ์ดัชนีความเชื่อมั่นของประชาชนโดยรวมปรับตัวลดลง โดยดัชนีที่ปรับตัวลดลงเมื่อเปรียบเทียบกับเดือนมกราคมได้แก่ ภาวะเศรษฐกิจโดยรวม รายได้จากการทำงาน รายจ่ายเพื่อซื้อสินค้าอุปโภค บริโภคที่จำเป็นในครอบครัว รายจ่ายด้านการท่องเที่ยว ความสุขในการดำเนินชีวิต ฐานะการเงิน (รายได้หักรายจ่าย) การออมเงิน การแก้ปัญหาเศรษฐกิจ โดยปัจจัยลบเกิดจากหลายปัจจัย อาทิ ความขัดแย้งทางการค้าระว่างสหรัฐฯ และจีน ค่าเงินบาทผันผวน ภัยแล้ง แต่ปัจจัยหลักที่ส่งผลกระทบอย่างมากต่อสภาพคล่องของภาคธุรกิจและภาคครัวเรือน คือ ความวิตกกังวลของเชื้อไวรัสโควิค-19 ในประเทศไทย ที่พบผู้ป่วยเพิ่มขึ้นจากผู้ที่เดินทางกลับจากประเทศจีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ ทำให้เกิดความกังวลว่าจะมีผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยงเพิ่มขึ้น ทำให้ประชาชนระมัดระวังตนเอง หลีกเลี่ยงการไปในพื้นที่ผู้คนพลุกพล่าน เช่น แหล่งท่องเที่ยว ห้างสรรพสินค้า นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวต่างชาติ อาทิ จีน มาเลเซีย และสิงคโปร์ ที่กำลังจะเดินทางมาท่องเที่ยวในภาคใต้ ได้ยกเลิกการเดินทางแบบไม่มีกำหนด ทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติลดลงกว่า 50% ส่งผลให้การค้าขายในภาคใต้ซบเซาอย่างหนัก ผู้ประกอบการที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก อาทิ โรงแรม รีสอร์ท บริษัทนำเที่ยว มัคคุเทศก์ โลจิสติกส์พาหนะโดยสารเพื่อการท่องเที่ยว ธุรกิจบันเทิง ห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก สินค้าโอท็อป และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องอื่น ๆ อีกมากมายที่พึ่งพิงการท่องเที่ยว อีกทั้งผลกระทบดังกล่าวยังส่งผลต่อประชาชนรากหญ้าที่หาเช้ากินค่ำจำนวนมาก ซึ่งสถานการณ์ที่เกิดขึ้นนับเป็นปัจจัยภายนอกที่เกิดขึ้น โดยไม่มีใครคาดการณ์ไว้ก่อน ซึ่งในขณะนี้นับเป็นวิกฤตอย่างมากกับประชาชนส่วนหนึ่งในภาคใต้ และจะวิกฤตหนักมากกว่านี้ หากภาครัฐไม่สามารถควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้ ทั้งนี้ภาครัฐควรบอกกับประชาชนถึงวิธีการป้องกันโรคที่ถูกต้อง อีกทั้งไม่ควรกระจายข่าวการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 จนทำให้ประชาชนตื่นตระหนกและเกิดความหวาดกลัวจนเกินไป แต่ควรสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ประชาชน เพื่อให้สามารถใช้ชีวิตโดยปกติสุข
ทั้งนี้ ธุรกิจในภาคใต้หลายภาคส่วนที่ได้รับผลกระทบจากโรคระบาดไวรัสโควิค-19 ส่งผลให้ขาดสภาพคล่องในการดำเนินธุรกิจ ทำให้ไม่มีเงินจ่ายค่าจ้างแก่พนักงาน จึงวอนขอให้ภาครัฐช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน โดยออกมาตรการช่วยเหลือต่าง ๆ อาทิ การให้กู้ยืมเงินแบบไม่มีดอกเบี้ย หรือดอกเบี้ยต่ำ การผ่อนผันการชำระหนี้ การร่วมมือระหว่างภาครัฐและผู้ประกอบการท่องเที่ยวในการจัดรายการส่งเสริมการขายเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยว การจัดโปรโมชั่นการท่องเที่ยวในวันธรรมดา ส่งเสริมให้คนไทยเที่ยวในประเทศไทยมากขึ้น นโยบายลดหย่อนภาษี เพื่อให้คนไทยออกมาท่องเที่ยวและใช้จ่ายมากขึ้น ซึ่งทำให้เกิดเงินหมุนเวียนในเศรษฐกิจ อีกทั้ง การช่วยเหลือลูกจ้าง และพนักงานของธุรกิจที่ได้รับผลกระทบ รวมถึงผู้ค้าขาย หาบเร่ แผงลอย เป็นต้น
ขณะที่ผลคาดการณ์ในอีก 3 เดือนข้างหน้า ประชาชนส่วนใหญ่เชื่อว่าภาวะเศรษฐกิจโดยรวม และรายได้จากการทำงานจะเพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ 34.70 และ 32.80 ตามลำดับ ส่วนความเชื่อมั่นต่อรายจ่ายเพื่อซื้อสินค้าอุปโภค บริโภคที่จำเป็นในครัวเรือน และรายจ่ายด้านการท่องเที่ยว ในอีก 3 เดือนข้างหน้า จะเพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ 39.70 และ 28.80 ตามลำดับ ส่วนความเชื่อมั่นด้านความสุขในการดำเนินชีวิต การแก้ปัญหาเศรษฐกิจและการแก้ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ในอีก 3 เดือนข้างหน้า จะเพิ่มขึ้น คิดเป็นร้อยละ 24.20 , 34.60 และ 30.40 ตามลำดับ
ปัจจัยที่ประชาชนส่วนใหญ่มองว่ามีผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจและสังคมในปัจจุบันมากที่สุด คือ ค่าครองชีพ คิดเป็นร้อยละ 28.40 รองลงมา คือ ราคาสินค้าสูง และราคาพืชผลทางการเกษตรตกต่ำ คิดเป็นร้อยละ 25.30 และ 17.40 ตามลำดับ ขณะที่ปัญหาเร่งด่วนที่ประชาชนส่วนใหญ่มองว่ารัฐบาลควรให้ความช่วยเหลือเป็นอันดับแรก คือ ค่าครองชีพ รองลงมา คือ ราคาสินค้าสูง ตามลำดับ