ดัชนีความเชื่อมั่นของประชาชนในภาคใต้ ด้านเศรษฐกิจและสังคม เดือนเมษายน 2567

ดัชนีความเชื่อมั่นของประชาชนในภาคใต้ ด้านเศรษฐกิจและสังคม เดือนเมษายน 2567
Spread the love

ดัชนีความเชื่อมั่นของประชาชนในภาคใต้ ด้านเศรษฐกิจและสังคม เดือนเมษายน 2567

                      ศูนย์วิจัยนวัตกรรมทางธุรกิจ คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยหาดใหญ่ ได้ดำเนินการจัดทำดัชนีความเชื่อมั่นของประชาชนในภาคใต้ ด้านเศรษฐกิจและสังคม โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อวัดการเปลี่ยนแปลงของ  สภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจและสังคมของประชาชนในภาคใต้ เก็บแบบสอบถามกับกลุ่มตัวอย่างจากประชาชนในพื้นที่ 14 จังหวัดภาคใต้ จำนวน 420 ตัวอย่าง

 

              ผลการสำรวจความเชื่อมั่นของประชาชนในภาคใต้ ด้านเศรษฐกิจและสังคม เดือนมีนาคม 2567 เปรียบเทียบเดือนกุมภาพันธ์ 2567  และคาดการณ์ในอีก 3 เดือนข้างหน้า

 

รายการ มีนาคม 2567 เมษายน 2567 คาดการณ์ใน 3 เดือนข้างหน้า
เพิ่มขึ้น/ คงที่/ ลดลง/ เพิ่มขึ้น/ คงที่/ ลดลง/ เพิ่มขึ้น/ คงที่/ ลดลง/
ดีขึ้น เท่าเดิม แย่ลง ดีขึ้น เท่าเดิม แย่ลง ดีขึ้น เท่าเดิม แย่ลง
1. ภาวะเศรษฐกิจโดยรวม 29.20 47.30 23.50 29.40 47.20 23.40 36.10 52.00 11.90
2. รายได้จากการทำงาน 27.40 46.70 25.90 27.50 46.90 25.60 35.80 52.10 12.10
3. รายจ่ายเพื่อซื้อสินค้าอุปโภค บริโภคที่จำเป็นในครอบครัว 31.20 47.30 21.50 32.10 47.40 20.50 30.60 52.40 17.00
4. รายจ่ายด้านการท่องเที่ยว เช่น การเดินทาง ที่พัก อาหาร และอื่น ๆ 29.50 45.10 25.40 29.90 46.20 23.90 32.20 47.50 20.30
5. ความสุขในการดำเนินชีวิต 27.40 47.60 25.00 27.60 47.50 24.90 34.50 51.30 14.20
6. ฐานะการเงิน (รายได้หักรายจ่าย) 28.40 47.20 24.40 28.60 47.50 23.90 36.80 49.20 14.00
7. การออมเงิน 27.10 45.30 27.60 27.00 45.10 27.90 34.20 57.20 8.60
8. การรักษามาตรฐานค่าครองชีพ 27.30 45.60 27.10 27.20 45.20 27.60 30.10 54.60 15.30
9. การลดลงของหนี้สิน 27.40 47.20 25.40 27.30 46.40 26.30 30.40 48.90 20.70
10. ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน 26.00 46.20 27.80 26.20 45.10 28.70 30.30 48.60 21.10
11. การแก้ปัญหายาเสพติด 24.60 45.20 30.20 24.30 45.50 30.20 30.80 46.40 22.80
12. การแก้ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ 26.10 46.20 27.70 26.10 46.20 27.70 34.30 45.60 20.10
13. การแก้ปัญหาเศรษฐกิจ 28.70 48.00 23.30 28.30 47.40 24.30 35.60 45.80 18.60

 ความเชื่อมั่นของประชาชนในภาคใต้ด้านเศรษฐกิจและสังคม เดือนกุมภาพันธ์ มีนาคม และเมษายน 2567

รายการ 2567
กุมภาพันธ์ มีนาคม เมษายน
1. ภาวะเศรษฐกิจโดยรวม 50.20 49.80 50.50
2. รายได้จากการทำงาน 44.50 44.10 44.60
3. รายจ่ายเพื่อซื้อสินค้าอุปโภค บริโภคที่จำเป็นในครอบครัว 60.40 60.10 60.70
4. รายจ่ายด้านการท่องเที่ยว เช่น การเดินทาง ที่พัก อาหาร และอื่น ๆ 51.00 50.30 52.10
5. ความสุขในการดำเนินชีวิต 51.30 50.70 51.80
6. ฐานะการเงิน (รายได้หักรายจ่าย) 43.70 43.40 44.00
7. การออมเงิน 41.60 41.20 41.90
8. การรักษามาตรฐานค่าครองชีพ 39.20 39.10 39.00
9. การลดลงของหนี้สิน 48.80 47.90 47.40
10. ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน 44.10 44.00 43.60
11. การแก้ปัญหายาเสพติด 38.70 38.50 38.20
12. การแก้ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ 35.50 35.10 35.10
13. การแก้ปัญหาเศรษฐกิจ 41.50 40.80 41.60
14. ความเชื่อมั่นของประชาชนโดยรวม 46.80 45.70 47.50

ดัชนีความเชื่อมั่นของประชาชนในภาคใต้ ด้านเศรษฐกิจและสังคม เดือนเมษายน 2567

                ผศ.ดร.วิวัฒน์  จันทร์กิ่งทอง ผู้จัดการศูนย์วิจัยนวัตกรรมทางธุรกิจ รายงานผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นของประชาชนในภาคใต้ ด้านเศรษฐกิจและสังคม เดือนเมษายน 2567 พบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของประชาชนโดยรวมเดือนเมษายน (47.50) ปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับเดือนมีนาคม  (45.57) และเดือนกุมภาพันธ์ (46.80) โดยดัชนีที่มีการปรับตัวเพิ่มขึ้น ได้แก่  ภาวะเศรษฐกิจโดยรวม  รายได้จากการทำงาน  รายจ่ายเพื่อซื้อสินค้าอุปโภค บริโภคที่จำเป็นในครอบครัว รายจ่ายด้านการท่องเที่ยว  ความสุขในการดำเนินชีวิต  ฐานะการเงิน (รายได้หักรายจ่าย)  และการออมเงิน โดยปัจจัยบวกที่สำคัญ คือ ในช่วงวันหยุดยาวเทศกาลวันสงกรานต์ ตั้งแต่วันที่ 13-16 เมษายน ซึ่งเป็นวันขึ้นปีใหม่ไทย  ประชาชนส่วนหนึ่งได้เดินทางกลับภูมิลำเนา และได้จับจ่ายใช้สอยซื้อสินค้าเพื่อนำมาเลี้ยงสังสรรค์จำนวนมาก ในขณะที่ประชาชนส่วนหนึ่งได้เดินทางท่องเที่ยว โดยสถานที่ท่องเที่ยวทางทะเล และสถานที่ที่จัดเทศกาลสงกรานต์มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไปท่องเที่ยวจำนวนมาก รวมถึงหน่วยงานภาครัฐและเอกชนในหลายพื้นที่ได้ร่วมกันจัดกิจกรรมประเพณีสงกรานต์ ขบวนแห่ การสาดน้ำ และการจัดกิจกรรมสันทนาการเล่นน้ำ ประแป้ง ปาร์ตี้โฟม ซึ่งเป็นการส่งเสริมและกระตุ้นการท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก  อีกทั้งมาตรการวีซ่าฟรีให้แก่นักท่องเที่ยวต่างประเทศ ส่งผลให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวยังประเทศไทยในช่วงดังกล่าว ทำให้มีเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจของภาคใต้จำนวนมาก

                ถึงแม้ว่าเศรษฐกิจโดยภาพรวมจะมีแนวโน้มที่ดีขึ้น แต่ส่วนใหญ่จะขยายตัวเฉพาะในเขตเมืองและแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ ในขณะที่พื้นที่ในเขตนอกเมืองและพื้นที่ห่างไกลจากแหล่งท่องเที่ยว พบว่า สภาพเศรษฐกิจยังตกต่ำเช่นเดิม ทำให้ผู้ประกอบการธุรกิจและประชาชนที่ทำอาชีพค้าขายจำนวนมากยังประสบกับปัญหารายได้ไม่เพียงพอกับรายจ่าย และมีหนี้สินเพิ่มมากขึ้น  อย่างไรก็ตาม ประชาชนส่วนหนึ่งคาดหวังว่า โครงการดิจิทัลวอลเล็ตจะทำให้เกิดเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจจำนวนมาก และเม็ดเงินสามารถกระจายไปทั่วถึงในทุกอำเภอ ซึ่งจะทำให้ประชาชนมีรายได้เพิ่มมากขึ้น และอาจทำให้หนี้สินของประชาชนลดลงได้

จากการสัมภาษณ์ประชาชนภาคใต้ในหลายสาขาอาชีพ เพื่อรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับความกังวล ความคาดหวัง และความต้องการของประชาชน มีดังนี้

  1. 1. ประชาชนต้องการความชัดเจนของโครงการดิจิทัลวอลเล็ต โดยเฉพาะผู้ประกอบการและร้านค้าขนาดเล็กที่มีเงินทุนหมุนเวียนน้อย และมีรายได้ต่ำ ทำให้ไม่ได้อยู่ในระบบภาษี โดยประชาชนกลุ่มนี้ต้องการให้ภาครัฐออกข้อกำหนดในการเข้าร่วมโครงการดิจิทัลวอลเล็ตที่ง่าย และสามารถเบิกเงินที่ค้าขายได้มาหมุนเวียนได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว
  2. 2. จากราคาน้ำมันที่มีการปรับราคาขึ้น ส่งผลต่อการขึ้นราคาสินค้าและบริการ ทำให้ประชาชนที่เป็นกลุ่มแรงงานที่มีรายได้น้อยได้รับผลกระทบ และต้องการให้ภาครัฐทยอยปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำให้ถึง 400 บาทอย่างเร่งด่วน โดยให้ครอบคลุมทุกกลุ่มอาชีพ เพื่อให้ประชาชนมีรายได้เพียงพอต่อค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น
  3. สถานการณ์ภัยแล้งติดต่อกันหลายเดือนในหลายจังหวัดภาคใต้ เริ่มสร้างความเสียหายให้กับพืชเศรษฐกิจ ได้แก่ ปาล์มน้ำมัน ยางพารา มีผลผลิตลดลงอย่างมาก ทำให้ประชาชนมีรายได้ลดลง อีกทั้ง แหล่งกักเก็บน้ำเพื่อการอุปโภคและบริโภคลดลงอย่างมาก ประชาชนจึงต้องการให้ภาครัฐช่วยเหลือในการจัดหาแหล่งน้ำในระยะสั้น และช่วยหาแนวทางฟื้นฟู ปรับปรุง และจัดสร้างแหล่งกักเก็บน้ำในระยะยาว
  4. จากการสอบถามความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับสถานบันเทิงครบวงจรและคาสิโนถูกกฎหมาย สรุปประเด็นได้ ดังนี้
ความคิดเห็นของประชาชนต่อสถานบันเทิงครบวงจรและคาสิโนถูกกฎหมาย
กลุ่มที่เห็นด้วย (เหตุผล) กลุ่มที่ไม่เห็นด้วย (เหตุผล)
– ช่วยดึงดูดนักพนัน และนักลงทุนต่างชาติ

– มีเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจมากขึ้น

– สนับสนุนการท่องเที่ยวของประเทศ

– ภาครัฐสามารถจัดเก็บภาษีได้มากขึ้น

– ภาครัฐมีเงินพัฒนาประเทศมากขึ้น

– ลดปัญหาเจ้าหน้าที่รัฐรับส่วยการพนัน

– เกิดการจ้างงานในประเทศมากขึ้น

– สร้างความเจริญในจังหวัดและประเทศ

– มีบริการเพิ่มขึ้น เช่น ห้างสรรพสินค้า  ศูนย์สุขภาพ ศูนย์ประชุม ศูนย์แสดงสินค้า ที่พักแรม  สวนสนุก  ร้านอาหาร ฯลฯ

– คาสิโนเป็นอบายมุข ผิดศีลธรรม ตามหลักพุทธศาสนา

– ไม่ควรเอาเงินที่ได้จากการพนัน เพราะเป็นเงินบาป

– ทำให้เกิดปัญหาสังคม เช่น หนี้สิน หย่า ฆ่าตัวตาย

– ทำให้เกิดปัญหาอาชญากรรมเพิ่มมากขึ้น

– ทำให้เกิดการค้าประเวณี ค้ายาเสพติด ค้าอาวุธ

– เป็นแหล่งฟอกเงินของเจ้าหน้าที่รัฐ นักการเมือง

– ไม่เชื่อมั่นต่อภาครัฐในการบังคับใช้กฎหมาย

– ทำให้คนไทยติดการพนันเพิ่มขึ้น

– ไม่เชื่อว่าจะลดจำนวนบ่อนการพนันให้น้อยลงได้

– ทำให้เกิดธุรกิจสีเทาเพิ่มขึ้น

– ทำให้เกิดปัญหาสิ่งแวดล้อม เช่น ขยะ มลพิษ

 

 

 

ความกังวลและข้อเสนอแนะของประชาชนต่อการเปิดสถานบันเทิงครบวงจร
1. ควรศึกษาผลกระทบและแนวทางป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นก่อนการตัดสินใจดำเนินการ

2. ควรออกกฎหมายควบคุมเกี่ยวกับสถานบันเทิงครบวงจร โดยเฉพาะคาสิโนถูกกฎหมายอย่างเข้มงวด

3. ควรมีหน่วยงานที่กำกับดูแล ป้องกัน และฟื้นฟูผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้น

4. การเปิดคาสิโนถูกกฎหมายจะต้องไม่สร้างปัญหาใหม่ให้เกิดในประเทศ

5. สถานที่ตั้งของ “สถานบันเทิงครบวงจร” ควรห่างไกลจากชุมชน สถานศึกษา และศาสนสถาน

6. ควรตรวจสอบนักลงทุนต่างชาติอย่างละเอียด เพื่อป้องกันนักลงทุนสีเทา  เช่น ทุนจีนสีเทา

7. ควรกำหนดมาตรการป้องกันเจ้าหน้าที่รัฐ และนักการเมืองในการหาผลประโยชน์

8. ควรจัดตั้งหน่วยงานเอกชน หรือหน่วยงานอิสระที่ไม่ขึ้นต่อภาครัฐ ในการตรวจสอบการดำเนินงาน

9. ควรเปิดรับความคิดเห็นจากประชาชนในทุกภาคส่วนต่อการเปิดคาสิโนถูกกฎหมาย โดยเฉพาะประชาชนในจังหวัดที่จะเปิดสถานบันเทิงครบวงจร

 

                ผลคาดการณ์ในอีก 3 เดือนข้างหน้า พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่เชื่อว่าภาวะเศรษฐกิจโดยรวม และรายได้จากการทำงานเพิ่มขึ้น คิดเป็นร้อยละ 36.10 และ 35.80 ตามลำดับ ส่วนความเชื่อมั่นต่อรายจ่ายเพื่อซื้อสินค้าอุปโภค บริโภคที่จำเป็นในครัวเรือน และรายจ่ายด้านการท่องเที่ยว ในอีก 3 เดือนข้างหน้าเพิ่มขึ้น คิดเป็น ร้อยละ 30.60 และ 32.20  ตามลำดับ ในขณะที่ความเชื่อมั่นด้านความสุขในการดำเนินชีวิต การแก้ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และการแก้ปัญหาเศรษฐกิจในอีก 3 เดือนข้างหน้าเพิ่มขึ้น  คิดเป็นร้อยละ 34.50, 34.30  และ 35.60 ตามลำดับ

Facebook Comments Box


Spread the love

Written by 

Related posts

Verified by ExactMetrics