กนอ.ย้ำ“นิคมฯ สงขลา”พร้อมเปิดให้บริการเต็มรูปแบบตุลาคมนี้!

Spread the love

กนอ.ย้ำ“นิคมฯ สงขลา”พร้อมเปิดให้บริการเต็มรูปแบบตุลาคมนี้!

เชื่อดึงเม็ดเงินลงทุนได้กว่า 13,000 ล้านบาท เกิดการจ้างงานกว่า 3,000 อัตรา

เผยเตรียมเปิดด่านสะเดาแห่งที่ 2 – มอเตอร์เวย์สายใหม่ เชื่อมหาดใหญ่-สะเดา

 

ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เผยนิคมอุตสาหกรรมสงขลา ในพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ (SEZ) อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา มีการพัฒนาพื้นที่ไปแล้วร้อยละ 35 คาดเปิดให้บริการได้ช่วงเดือนตุลาคมนี้ ขณะที่บรรยากาศการลงทุนมีนักลงทุนต่างชาติและนักลงทุนไทยสนใจเข้ามาลงทุนจำนวนมาก แย้มหากมีการใช้พื้นที่เต็มประสิทธิภาพจะมีเม็ดเงินลงทุนกว่า 13,000 ล้านบาท เกิดการจ้างงานไม่น้อยกว่า 3,400 อัตรา ล่าสุดสร้างมอเตอร์เวย์สายใหม่เส้นทางจากอำเภอหาดใหญ่ – อำเภอสะเดา ระยะทางกว่า 70 กิโลเมตร เชื่อมระบบการคมนาคมขนส่งครบวงจร ประกาศความพร้อมรับอุตสาหกรรมเป้าหมายเต็มที่!

นางสาวสมจิณณ์ พิลึก ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการก่อสร้างนิคมอุตสาหกรรมสงขลา ในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษชายแดน จังหวัดสงขลา (SEZ) ที่เริ่มก่อสร้างมาตั้งแต่วันที่ 19 เมษายน 2562 โดยการก่อสร้างแบ่งเป็น 2 ระยะ ประกอบด้วย ระยะที่ 1 การก่อสร้างบนพื้นที่ 629 ไร่ แบ่งเป็นเขตประกอบการทั่วไปและเขตพาณิชยกรรม 337 ไร่ ที่เหลือเป็นพื้นที่ระบบสาธารณูปโภคและพื้นที่สีเขียวและแนวกันชน 292 ไร่ ปัจจุบันการก่อสร้างมีความคืบหน้าประมาณ 35% โดยคาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จภายในเดือนตุลาคม 2563 ซึ่งเป็นไปตามแผนที่วางไว้ ขณะเดียวกันในระหว่างการก่อสร้างหรือพัฒนาพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมสงขลา มีนักลงทุนให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก อาทิ นักลงทุนจากประเทศมาเลเซีย และประเทศสิงคโปร์ และกลุ่มนักลงทุนในไทย โดยล่าสุดได้มีการทำสัญญาจองเช่าที่ดินแล้ว 1 ราย พื้นที่ 15 ไร่ เพื่อประกอบธุรกิจคอมมิวนิตี้มอลล์ และสถานีบริการน้ำมัน สำหรับการก่อสร้างระยะที่ 2 พื้นที่ประมาณ 298 ไร่ ขณะนี้อยู่ระหว่างการส่งมอบที่ดินจากกรมธนารักษ์ คาดว่าจะส่งมอบที่ดินให้ กนอ.ได้ภายในเดือนเมษายน 2563  

ทั้งนี้ นิคมอุตสาหกรรมสงขลา มีมูลค่าการลงทุนโครงการประมาณ 2,890.402 ล้านบาท ตั้งอยู่ริมถนนทางหลวงหมายเลข 4 ตำบลสำนักขาม อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา มีพื้นที่รวมทั้งหมด 927 ไร่  โดยเมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จทั้งโครงการ และใช้พื้นที่เต็มประสิทธิภาพแล้ว จะก่อให้เกิดมูลค่าการลงทุนประมาณ 13,800 ล้านบาท และอัตราการจ้างงานในพื้นที่ไม่น้อยกว่า 3,400 อัตรา

จังหวัดสงขลา ถือเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพในการลงทุนสูง เนื่องจากมีที่ตั้งทางยุทธศาสตร์ (Strategic Location) ด้านชายแดนไทย-มาเลเซีย อีกทั้งมีโครงสร้างพื้นฐานและสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน โดยล่าสุดเตรียมเปิดด่านศุลกากรสะเดาแห่งที่ 2 เพื่อรองรับการค้าชายแดน ซึ่งจากสถิติด่านศุลกากรสะเดาในปีที่ผ่านมา (2562) มีมูลค่าสินค้านำเข้า-ส่งออก เฉลี่ย 24,791 ล้านบาท/เดือน และรถบรรทุกสินค้านำเข้า-ส่งออก 21,686 คัน/เดือน มีผู้เดินทางเข้า-ออกนอกประเทศ      ณ ด่านสะเดา 554,723 คน/เดือน และตามแผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของไทย พ.ศ. 2558-2565 ได้ดำเนินการจัดทำโครงการทางหลวงพิเศษ (มอเตอร์เวย์) บริเวณจุดตัดกับทางหลวงหมายเลข 4 (ถนนเพชรเกษม) อำเภอบางกลํ่า จังหวัดสงขลา โดยมีจุดสิ้นสุดที่ชายแดนไทย-มาเลเซีย ใกล้กับด่านศุลกากรสะเดา แห่งที่ 2 รวมระยะทางโครงการ 70.43 กิโลเมตร ซึ่งเชื่อว่าจะทำให้เกิดการเชื่อมโยงระบบการคมนาคมขนส่งอย่างครบวงจรระหว่างอำเภอหาดใหญ่ และอำเภอสะเดา และยังเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพระบบการขนส่งสินค้าสำหรับการค้าชายแดนในภูมิภาคได้เป็นอย่างดี  

“กนอ.มุ่งหวังให้เกิดการลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย ได้แก่ อุตสาหกรรมแปรรูปสินค้าเกษตร อุตสาหกรรมโลจิสติกส์ อุตสาหกรรมบริการ อุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานพาหนะ หรือเครื่องจักร อุตสาหกรรมผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้า ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ และสายเคเบิ้ล รวมถึงอุตสาหกรรมเบา ซึ่งจากการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานในพื้นที่ โดยเฉพาะการเชื่อมต่อเส้นทางคมนาคมขนส่งระหว่างอำเภอหาดใหญ่ และอำเภอสะเดา การมีด่านศุลกากรสะเดา แห่งที่ 2 เชื่อว่าจะเพิ่มศักยภาพให้ทั้งนิคมอุตสาหกรรมยางพารา (Rubber City) และนิคมอุตสาหกรรมสงขลา ที่มีความโดดเด่นอยู่แล้วได้รับความสนใจจากนักลงทุนเพิ่มขึ้น สามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เดินหน้าต่อไปได้อย่างแข็งแกร่งตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี” นางสาวสมจิณณ์ กล่าวปิดท้าย

Facebook Comments Box


Spread the love

Written by 

Related posts

Verified by ExactMetrics