วันอาทิตย์ที่ 15 กันยายน 2562 นายเอกวรพงศ์ อำนวยทรัพย์ หัวหน้าพรรคพลังเพื่อไทย ได้ลงมาเปิดสาขาพรรคพลังเพื่อไทย ซึ่งเป็นพรรคแรก ที่ อ.จะนะ จ.สงขลา โดยมี นางสาวกุลนิจ กีรติดวงจันทร์ ตำแหน่งรองหน้าพรรคพลังเพื่อไทย สาขาสงขลา ให้การต้อนรับพร้อมสมาชิกที่สาขาพรรคพลังเพื่อไทย และการแนะนำตัวสมาชิกพรรคให้ประชาชนที่เข้าร่วมได้รับทราบ ซึ่งมีนายประพนธ์ บุญวรรโณ, นายโกลัญญา วรรณชัย ,ร.ต.ต.จเร วรรณชัย, นาวสาวกุลนิจ กีรติดวงจันทร์ ,นายสนั่นศักดิ์ ยุทธการ และนายวันอิดริส แวมามุ
นายเอกวรพงศ์ อำนวยทรัพย์ หัวหน้าพรรคพลังเพื่อไทย กล่าวว่า การจัดตั้งพรรคครั้งแรกโดยการรับรองเมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2561 แต่ไม่ได้ส่งผู้สมัครลงเลือกตั้งเพราะกำหนดวันไม่ครบ หลังจากตั้งที่สงขลาแล้ว ก็จะไปเปิดสาขาที่ 2 ที่ จ.หนองคาย ซึ่งจะเปิดในวันที่ 20 กันยายนนี้ และอีก 2 สาขา ต่อไปที่สาขาเพชรบูรณ์และ สระบุรี ภายในสิ้นเดือนกันยายนนี้ และถ้ามีการเลือกตั้งในเร็วๆวันนี้ พรรคจะส่งผู้สมัคร ส.ส.ในระบบปาตี้ลิสต์ ประมาณ 30 คน และผู้สมัครเขต 200 เขตทั่วประเทศ
นอกจากนี้ได้นำนโยบายพรรค มาให้ชาวใต้ได้รับรู้เป็นที่แรกของภาคใต้ ดังมีรายการต่อไปนี้
1.ยกระดับการเมืองไทยด้วยการสรรหานักการเมืองรุ่นใหม่เข้ามาบริหารประเทศ รวมทั้งเป็นพรรคการเมืองที่สร้างความปรองดองให้กับสังคม
2.มีการบริหารและรูปแบบการทำงานที่เป็นประชาธิปไตย มีความโปร่งใสและตรวจสอบได้
3.เป็นพรรคการเมืองที่มีนักธุรกิจหรือภาคเอกชนมาเป็นผู้บริหารพรรคและกรรมการบริหารพรรคในสัดส่วนที่มากขึ้นเมื่อเทียบพรรคการเมืองอื่น
4.เพิ่มอำนาจพี่น้องประชาชนและเกษตรกรด้วยการจัดตั้ง “สมัชชาเกษตรกร” ในจังหวัดต่างๆ ในเรื่องการสนับสนุน ยกระดับความเป็นอยู่ของเกษตรกรทั่วประเทศและการจัดตั้งร้านค้าสวัสดิการเพื่อสังคมขึ้นในทุกจังหวัด อำเภอและตำบล ในรูปแบบสหกรณ์ ที่ช่วยเหลือประชาชนในเรื่องสวัสดิการ ยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนและกลุ่มเกษตรกรในการจัดตั้งกองทุน ให้เกิดความร่วมมือของคนในชุมชน พรรคและองค์กรธุรกิจ ที่มีจิตอาสาในการทำงาน ในรูปแบบการให้ยืมเงินปลอดดอกเบี้ย รวมทั้งการจัดหาตลาดการขายสินค้าเกษตร ให้กับประชาชนหรือเกษตรกรที่เข้าร่วมเป็นสมาชิกกองทุน
5.ส่งเสริมและสนับสนุนสตรี ที่มีจิตอาสา เสียสละ ทำงานเพื่อบ้านเมือง และช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ให้มีบทบาทและอำนาจทางการเมืองเพิ่มขึ้น เช่น การผลักดันให้สตรีเป็นผู้นำชุมชน หรือมีบทบาททางการเมืองมากขึ้น รวมทั้งส่งเสริมให้สตรีเป็นประธานสมัชชาเกษตรประจำจังหวัด เป็นต้น
6.ด้านสังคมพรรคจะเป็นองค์กรการเมือง ที่เปิดโอกาสให้กับกลุ่มคนที่ด้อยโอกาสตลอดกาล 3 กลุ่มเข้ามามีส่วนร่วมงานกับพรรคในบทบาทการเป็นกรรมการบริหารพรรค ผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และสมาชิกพรรคดังต่อไปนี้
1.บุคคลต่างด้าวที่ถือสัญชาติไทย
2.ผู้ต้องขังที่พ้นโทษคดีตามกฏหมาย
3.สตรีที่ขาดโอกาสทางสังคม จากการเคยประกอบอาชีพที่สังคมไม่ยอมรับ
พรรคจะเปิดโอกาสให้เข้ามามีส่วนร่วมในการทำงานเพื่อสร้างโอกาสในการดำรงชีพให้ชีวิตมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ไม่สร้างภาระให้แก่สังคม และมีส่วนร่วมในการทำประโยชน์ให้แก่บ้านเมือง ทำให้บ้านเมืองสุขสงบและปลอดภัย
7.ปรับปรุงและแก้ไขกฏหมายที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจเครือข่าย (ขายตรง) และธุรกิจการประกันภัย เพื่อเป็นการส่งเสริมอุตสาหกรรม ธุรกิจขายตรงและการประกันภัย ก้าวสู่การเติบโตที่ยั่งยืน รวมทั้งปรับปรุงแก้ไขเพิ่มบทลงโทษสำหรับผู้กระทำผิดที่แฝงตัวอยู่ในธุรกิจทั้งสอง
8.ส่งเสริมและสนับสนุนโครงการพัฒนาชีวิตของประชาชนและเกษตรกร ให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น พรรคจะมุ่งเน้นเรื่อง ปัจจัยที่ 4 เป็นหลัก โดยการผลักดันให้ประชาชนและเกษตรกร เข้าถึงแหล่งเงินทุนและดอกเบี้ยต่ำ เพื่อให้มีบ้านเป็นของตนเอง สนับสนุนการผลิตเครื่องนุ่มห่มที่มีคุณภาพ ไว้ใช้ในครอบครัวและส่งออก ลดต้นทุนสินค้าด้านการเกษตรโดยการส่งเสริมการเกษตรอินทรีย์ เพื่อลดการใช้สารเคมี ส่งเสริมโครงการนวัตกรรมยาสมุนไพร ที่เพาะปลูกในประเทศเพื่อให้เกษตรกรมีรายได้เสริมและมียารักษาโรคคุณภาพดีปราศจากสารเคมี
9.สนับสนุนและส่งเสริมด้านการพัฒนาบุคคลากร ทางการศึกษาให้มีความรู้ความสามารถ ในการสร้างงาน สร้างอาชีพ ให้แก่ประชาชน
10.ส่งเสริมและสนับสนุนให้ระบบ การดูแลสิ่งแวดล้อมเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอดไป เพื่อสุขอนามัยของประชาชน รวมถึงให้มีการพัฒนาพลังงานทางเลือกอย่างยั่งยืน
11.ส่งเสริมและผลักดัน ให้ผู้ประกอบการด้านอสังหาริมทรัพย์ เข้าถึงแหล่งเงินทุนและดอกเบี้ยต่ำ เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจหลักของประเทศและทำให้ประชาชนสามารถซื้อบ้านในราคาที่เป็นธรรม