ดัชนีความเชื่อมั่นของประชาชนในภาคใต้ ด้านเศรษฐกิจและสังคม เดือนมกราคม 2567
ศูนย์วิจัยนวัตกรรมทางธุรกิจ คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยหาดใหญ่ ได้ดำเนินการจัดทำดัชนีความเชื่อมั่นของประชาชนในภาคใต้ ด้านเศรษฐกิจและสังคม โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อวัดการเปลี่ยนแปลงของ สภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจและสังคมของประชาชนในภาคใต้ เก็บแบบสอบถามกับกลุ่มตัวอย่างจากประชาชนในพื้นที่ 14 จังหวัดภาคใต้ จำนวน 420 ตัวอย่าง
ผลการสำรวจความเชื่อมั่นของประชาชนในภาคใต้ ด้านเศรษฐกิจและสังคม เดือนมกราคม 2567 เปรียบเทียบเดือนธันวาคม 2566 และคาดการณ์ในอีก 3 เดือนข้างหน้า
รายการข้อคำถาม | ธันวาคม 2566 | มกราคม 2567 | คาดการณ์ใน 3 เดือนข้างหน้า | ||||||
เพิ่มขึ้น/ | คงที่/ | ลดลง/ | เพิ่มขึ้น/ | คงที่/ | ลดลง/ | เพิ่มขึ้น/ | คงที่/ | ลดลง/ | |
ดีขึ้น | เท่าเดิม | แย่ลง | ดีขึ้น | เท่าเดิม | แย่ลง | ดีขึ้น | เท่าเดิม | แย่ลง | |
1. ภาวะเศรษฐกิจโดยรวม | 29.20 | 47.80 | 23.00 | 29.30 | 47.60 | 23.10 | 34.10 | 55.80 | 10.10 |
2. รายได้จากการทำงาน | 27.70 | 46.80 | 25.50 | 27.90 | 46.90 | 25.20 | 35.40 | 48.30 | 16.30 |
3. รายจ่ายเพื่อซื้อสินค้าอุปโภค บริโภคที่จำเป็นในครอบครัว | 31.60 | 47.10 | 21.30 | 31.80 | 47.40 | 20.80 | 37.10 | 48.50 | 14.40 |
4. รายจ่ายด้านการท่องเที่ยว เช่น การเดินทาง ที่พัก อาหาร และอื่น ๆ | 29.50 | 45.80 | 24.70 | 29.90 | 46.20 | 23.90 | 34.50 | 49.30 | 16.20 |
5. ความสุขในการดำเนินชีวิต | 27.90 | 47.70 | 24.40 | 27.80 | 48.40 | 23.80 | 34.20 | 45.60 | 20.20 |
6. ฐานะการเงิน (รายได้หักรายจ่าย) | 28.50 | 47.60 | 23.90 | 28.80 | 47.50 | 23.70 | 37.40 | 47.60 | 15.00 |
7. การออมเงิน | 27.10 | 45.80 | 27.10 | 27.50 | 45.90 | 26.60 | 37.50 | 41.20 | 21.30 |
8. การรักษามาตรฐานค่าครองชีพ | 27.70 | 46.20 | 26.10 | 27.60 | 46.30 | 26.10 | 34.50 | 51.30 | 14.20 |
9. การลดลงของหนี้สิน | 28.60 | 48.50 | 22.90 | 28.80 | 48.60 | 22.60 | 36.80 | 49.20 | 14.00 |
10. ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน | 26.40 | 46.20 | 27.40 | 26.20 | 46.60 | 27.20 | 35.60 | 45.80 | 18.60 |
11. การแก้ปัญหายาเสพติด | 25.20 | 45.50 | 29.30 | 25.10 | 45.80 | 29.10 | 39.60 | 49.80 | 10.60 |
12. การแก้ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ | 26.70 | 46.50 | 26.80 | 26.50 | 46.40 | 27.10 | 32.40 | 50.10 | 17.50 |
13. การแก้ปัญหาเศรษฐกิจ | 29.40 | 47.90 | 22.70 | 29.70 | 47.80 | 22.50 | 33.60 | 44.70 | 21.70 |
ความเชื่อมั่นของประชาชนในภาคใต้ด้านเศรษฐกิจและสังคม เดือน พฤศจิกายน ธันวาคม 2566 และมกราคม 2567
รายการข้อคำถาม | 2566 | 2567 | |
พฤศจิกายน | ธันวาคม | มกราคม | |
1. ภาวะเศรษฐกิจโดยรวม | 49.70 | 49.80 | 50.10 |
2. รายได้จากการทำงาน | 43.80 | 43.90 | 44.30 |
3. รายจ่ายเพื่อซื้อสินค้าอุปโภค บริโภคที่จำเป็นในครอบครัว | 59.50 | 59.70 | 59.80 |
4. รายจ่ายด้านการท่องเที่ยว เช่น การเดินทาง ที่พัก อาหาร และอื่น ๆ | 50.20 | 50.60 | 50.90 |
5. ความสุขในการดำเนินชีวิต | 50.70 | 50.90 | 51.00 |
6. ฐานะการเงิน (รายได้หักรายจ่าย) | 43.00 | 43.40 | 43.50 |
7. การออมเงิน | 41.10 | 41.30 | 41.60 |
8. การรักษามาตรฐานค่าครองชีพ | 39.40 | 39.30 | 39.30 |
9. การลดลงของหนี้สิน | 48.20 | 48.50 | 48.70 |
10. ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน | 44.30 | 44.30 | 44.10 |
11. การแก้ปัญหายาเสพติด | 39.40 | 39.10 | 39.00 |
12. การแก้ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ | 35.60 | 35.60 | 35.50 |
13. การแก้ปัญหาเศรษฐกิจ | 40.90 | 41.20 | 41.40 |
14. ความเชื่อมั่นของประชาชนโดยรวม | 45.80 | 46.30 | 46.60 |
ผศ.ดร.วิวัฒน์ จันทร์กิ่งทอง ผู้จัดการศูนย์วิจัยนวัตกรรมทางธุรกิจ รายงานผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นของประชาชนในภาคใต้ ด้านเศรษฐกิจและสังคม พบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของประชาชนโดยรวมเดือนมกราคม 2567 (46.60) ปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับเดือนพฤศจิกายน(45.80) และเดือนธันวาคม 2566 (46.30) โดยดัชนีที่มีการปรับตัวเพิ่มขึ้น ได้แก่ ภาวะเศรษฐกิจโดยรวม รายได้จากการทำงาน รายจ่ายเพื่อซื้อสินค้าอุปโภค บริโภคที่จำเป็นในครอบครัว รายจ่ายด้านการท่องเที่ยว ความสุขในการดำเนินชีวิต ฐานะการเงิน (รายได้หักรายจ่าย) การออมเงิน การลดลงของหนี้สิน และการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ โดยปัจจัยบวกที่สำคัญ คือ การฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องของภาคการท่องเที่ยว ทั้งจากช่วงปีใหม่และเป็นฤดูกาลในการท่องเที่ยว (High Season) รวมถึงความสามารถของผู้ประกอบการในการรองรับนักท่องเที่ยวที่ปรับตัวดีขึ้น ทำให้เกิดการจ้างงานเพิ่มขึ้น ตลอดจนได้รับแรงส่งจากมาตรการสนับสนุนของภาครัฐ อาทิ มาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายผ่านโครงการ Easy-E-Receipt ในการใช้สิทธิลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับการซื้อสินค้าหรือบริการมูลค่าสูงสุด 50,000 บาท ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึง 15 กุมภาพันธ์ 2567
อย่างไรก็ตามประเทศไทยยังต้องขับเคลื่อนเศรษฐกิจโดยใช้การท่องเที่ยวเป็นหลัก ดังนั้นภาคการท่องเที่ยวไทยต้องพัฒนาศักยภาพให้สูงขึ้น เพื่อเพิ่มโอกาสในการแข่งขันกับการท่องเที่ยวของประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาค ทั้งนี้ ภาครัฐควรมีมาตรการส่งเสริมสนับสนุนการท่องเที่ยวอย่างครบวงจร และควรกำหนดกลุ่มเป้าหมายนักท่องเที่ยวให้ชัดเจน โดยเฉพาะควรมุ่งเน้นกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพดี และมีกำลังซื้อสูง เพื่อให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวสามารถรองรับและตอบสนองความต้องการของกลุ่มนักท่องเที่ยวได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม อีกทั้ง ภาครัฐควรจูงใจในการท่องเที่ยวเมืองรอง อาทิ การมอบสิทธิประโยชน์แก่นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาท่องเที่ยวเมืองรอง ซึ่งทำให้เกิดการกระจายความเจริญในสู่จังหวัดเมืองรองต่าง ๆ รวมถึงภาครัฐควรเร่งพัฒนาโครงข่ายคมนาคมให้สะดวก ปลอดภัย และสามารถเดินทางเชื่อมต่อกันระหว่างภูมิภาคได้อย่างสะดวกรวดเร็ว เพื่อดึงดูดให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางท่องเที่ยวได้หลายภูมิภาคและหลายจังหวัดโดยไม่เสียเวลาในการเดินทาง
จากการสัมภาษณ์ประชาชนภาคใต้ในหลายสาขาอาชีพ เพื่อรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับความกังวล ความคาดหวัง และความต้องการของประชาชน มีดังนี้
- สถานการณ์หนี้ครัวเรือนไทยยังน่ากังวล เนื่องจากผู้มีรายได้น้อยกว่า 1 ใน 3 ของผู้ประกอบอาชีพอิสระและรับจ้างทั่วไป โดยส่วนใหญ่เป็นแรงงานนอกระบบภาษี ซึ่งประชาชนกลุ่มเหล่านี้จำนวนไม่น้อยยังต้องพึ่งพาหนี้นอกระบบ เพราะไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินกู้ในระบบได้ ทั้งนี้ ภาครัฐควรจัดหาแหล่งเงินกู้ในระบบให้กับประชาชนที่เป็นแรงงานนอกระบบ เพื่อลดหนี้ครัวเรือนให้กับกลุ่มครัวเรือนเปราะบางเหล่านี้
- เกษตรกรมีความกังวลต่อต้นทุนการผลิตทางการเกษตรที่มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ปัจจุบันต้นทุนของเกษตรกรสูงขึ้นมาก ประกอบกับภาคใต้มีสภาพอากาศที่แปรปรวนมาก ส่งผลให้ผลผลิตทางการเกษตรที่ได้น้อยลง ทำให้รายได้ของเกษตรกรไม่เพียงพอต่อค่าใช้จ่าย และต้องเป็นหนี้ทั้งในระบบและนอกระบบจำนวนมาก อย่างไรก็ตามประเทศไทยเป็นประเทศเกษตรกรรมและยังต้องพึ่งพาภาคการเกษตร ดังนั้นภาครัฐควรมีมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรอย่างเป็นระบบ และควรส่งเสริมสนับสนุนนวัตกรรมทางการเกษตร เพื่อเพิ่มผลผลิตและลดต้นทุนของเกษตรกร
- ถึงแม้ว่าการท่องเที่ยวในภาคใต้จะมีการขยายตัวเป็นอย่างมาก ทำให้เกิดการจ้างงาน และการใช้บริการจากการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่มักเป็นการท่องเที่ยวในแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง และในตัวเมืองของจังหวัดที่มีความเจริญ แต่การท่องเที่ยวไม่ได้กระจายตัวไปสู่ชุมชนและเมืองรอง ซึ่งทำให้การท่องเที่ยวชุมชนและเมืองรองยังซบเซาและไม่ฟื้นตัว ทั้งนี้ ภาครัฐควรมีมาตรการส่งเสริมให้มีการท่องเที่ยวชุมชนและเมืองรอง เพื่อให้เกิดการกระจายรายได้และความเจริญอย่างทั่วถึง อาทิ แคมเปญส่วนลดเที่ยวชุมชน และส่วนลดเที่ยวเมืองรอง
- ความคิดเห็นของประชาชนในภาคใต้ต่อโครงการแลนด์บริดจ์ พบว่า ประชาชนส่วนหนึ่งเห็นด้วยกับการดำเนินโครงการแลนด์บริดจ์ หากไม่มีผลประโยชน์ของนักการเมืองและกลุ่มทุนแอบแฝง โดยประชาชนกลุ่มนี้มองว่า หากภาคใต้มีโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่ง ย่อมจะทำให้เศรษฐกิจของภาคใต้ดีขึ้น และช่วยสร้างงาน สร้างรายได้ให้กับคนในภาคใต้ อย่างไรก็ตาม ประชาชนส่วนหนึ่งไม่มั่นใจว่าโครงการแลนด์บริดจ์จะคุ้มค่าและเป็นประโยชน์ต่อประเทศไทยจริงหรือไม่ อีกทั้ง ยังมีความกังวลต่อผลกระทบด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ทั้งนี้ ก่อนการดำเนินโครงการฯ ภาครัฐควรศึกษาผลกระทบด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมถึงศึกษาค่าชดเชยให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบอย่างเหมาะสมและเป็นธรรม
ผลคาดการณ์ในอีก 3 เดือนข้างหน้า พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่เชื่อว่าภาวะเศรษฐกิจโดยรวม และรายได้จากการทำงานเพิ่มขึ้น คิดเป็นร้อยละ 34.10 และ 35.40 ตามลำดับ ส่วนความเชื่อมั่นต่อรายจ่ายเพื่อซื้อสินค้าอุปโภค บริโภคที่จำเป็นในครัวเรือน และรายจ่ายด้านการท่องเที่ยว ในอีก 3 เดือนข้างหน้าเพิ่มขึ้น คิดเป็น ร้อยละ 37.10 และ34.50 ตามลำดับ ในขณะที่ความเชื่อมั่นด้านความสุขในการดำเนินชีวิต การแก้ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และการแก้ปัญหาเศรษฐกิจในอีก 3 เดือนข้างหน้าเพิ่มขึ้น คิดเป็นร้อยละ 34.20 32.40 และ 33.60 ตามลำดับ