ดัชนีความเชื่อมั่นของประชาชนในภาคใต้ ด้านเศรษฐกิจและสังคม เดือนพฤศจิกายน 2566
ศูนย์วิจัยนวัตกรรมทางธุรกิจ คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยหาดใหญ่ ได้ดำเนินการจัดทำดัชนีความเชื่อมั่นของประชาชนในภาคใต้ ด้านเศรษฐกิจและสังคม โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อวัดการเปลี่ยนแปลงของ สภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจและสังคมของประชาชนในภาคใต้ เก็บแบบสอบถามกับกลุ่มตัวอย่างจากประชาชนในพื้นที่ 14 จังหวัดภาคใต้ จำนวน 420 ตัวอย่าง
ผลการสำรวจความเชื่อมั่นของประชาชนในภาคใต้ ด้านเศรษฐกิจและสังคม เดือนพฤศจิกายน 2566 เปรียบเทียบเดือนตุลาคม 2566 และคาดการณ์ในอีก 3 เดือนข้างหน้า
รายการข้อคำถาม | ตุลาคม 2566 | พฤศจิกายน 2566 | คาดการณ์ใน 3 เดือนข้างหน้า | ||||||
เพิ่มขึ้น/ | คงที่/ | ลดลง/ | เพิ่มขึ้น/ | คงที่/ | ลดลง/ | เพิ่มขึ้น/ | คงที่/ | ลดลง/ | |
ดีขึ้น | เท่าเดิม | แย่ลง | ดีขึ้น | เท่าเดิม | แย่ลง | ดีขึ้น | เท่าเดิม | แย่ลง | |
1. ภาวะเศรษฐกิจโดยรวม | 28.70 | 47.70 | 23.60 | 28.90 | 47.90 | 23.20 | 37.10 | 48.50 | 14.40 |
2. รายได้จากการทำงาน | 27.60 | 45.80 | 26.60 | 27.80 | 45.70 | 26.50 | 34.20 | 45.60 | 20.20 |
3. รายจ่ายเพื่อซื้อสินค้าอุปโภค บริโภคที่จำเป็นในครอบครัว | 31.20 | 47.90 | 20.90 | 31.50 | 46.60 | 21.90 | 34.50 | 49.30 | 16.20 |
4. รายจ่ายด้านการท่องเที่ยว เช่น การเดินทาง ที่พัก อาหาร และอื่น ๆ | 28.90 | 45.20 | 25.90 | 29.20 | 45.60 | 25.20 | 34.10 | 55.80 | 10.10 |
5. ความสุขในการดำเนินชีวิต | 27.60 | 47.80 | 24.60 | 27.80 | 47.50 | 24.70 | 35.40 | 48.30 | 16.30 |
6. ฐานะการเงิน (รายได้หักรายจ่าย) | 25.60 | 46.80 | 27.60 | 25.80 | 46.90 | 27.30 | 37.40 | 47.60 | 15.00 |
7. การออมเงิน | 26.50 | 45.60 | 27.90 | 26.80 | 45.60 | 27.60 | 37.50 | 41.20 | 21.30 |
8. การรักษามาตรฐานค่าครองชีพ | 27.90 | 46.70 | 25.40 | 27.70 | 46.20 | 26.10 | 34.50 | 51.30 | 14.20 |
9. การลดลงของหนี้สิน | 27.90 | 48.50 | 23.60 | 27.80 | 48.80 | 23.40 | 36.80 | 49.20 | 14.00 |
10. ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน | 27.20 | 46.80 | 26.00 | 27.00 | 46.10 | 26.90 | 35.60 | 45.80 | 18.60 |
11. การแก้ปัญหายาเสพติด | 25.10 | 46.50 | 28.40 | 25.20 | 45.50 | 29.30 | 39.60 | 49.80 | 10.60 |
12. การแก้ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ | 27.30 | 45.70 | 27.00 | 27.10 | 45.30 | 27.60 | 32.40 | 50.10 | 17.50 |
13. การแก้ปัญหาเศรษฐกิจ | 28.80 | 48.20 | 23.00 | 28.90 | 48.50 | 22.60 | 34.10 | 55.80 | 10.10 |
ความเชื่อมั่นของประชาชนในภาคใต้ด้านเศรษฐกิจและสังคม เดือนกันยายน ตุลาคม และพฤศจิกายน 2566
รายการข้อคำถาม | 2566 | ||
กันยายน | ตุลาคม | พฤศจิกายน | |
1. ภาวะเศรษฐกิจโดยรวม | 48.90 | 49.50 | 49.70 |
2. รายได้จากการทำงาน | 43.10 | 43.40 | 43.80 |
3. รายจ่ายเพื่อซื้อสินค้าอุปโภค บริโภคที่จำเป็นในครอบครัว | 59.10 | 59.30 | 59.50 |
4. รายจ่ายด้านการท่องเที่ยว เช่น การเดินทาง ที่พัก อาหาร และอื่น ๆ | 48.50 | 49.90 | 50.20 |
5. ความสุขในการดำเนินชีวิต | 50.40 | 50.60 | 50.70 |
6. ฐานะการเงิน (รายได้หักรายจ่าย) | 42.20 | 42.80 | 43.00 |
7. การออมเงิน | 40.70 | 41.00 | 41.10 |
8. การรักษามาตรฐานค่าครองชีพ | 39.50 | 39.50 | 39.40 |
9. การลดลงของหนี้สิน | 47.90 | 48.10 | 48.20 |
10. ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน | 44.30 | 44.40 | 44.30 |
11. การแก้ปัญหายาเสพติด | 40.20 | 39.60 | 39.40 |
12. การแก้ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ | 35.90 | 35.90 | 35.60 |
13. การแก้ปัญหาเศรษฐกิจ | 39.60 | 39.80 | 40.90 |
14. ความเชื่อมั่นของประชาชนโดยรวม | 45.10 | 45.50 | 45.80 |
ผศ.ดร.วิวัฒน์ จันทร์กิ่งทอง ผู้จัดการศูนย์วิจัยนวัตกรรมทางธุรกิจ รายงานผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นของประชาชนในภาคใต้ ด้านเศรษฐกิจและสังคม พบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของประชาชนโดยรวมเดือนพฤศจิกายน (45.80) ปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อเปรียบกับตุลาคม (45.50) และเดือนกันยายน (45.10) โดยดัชนีที่มีการปรับตัวเพิ่มขึ้น ได้แก่ ภาวะเศรษฐกิจโดยรวม รายได้จากการทำงาน รายจ่ายเพื่อซื้อสินค้าอุปโภค บริโภคที่จำเป็นในครอบครัว รายจ่ายด้านการท่องเที่ยว ความสุขในการดำเนินชีวิต ฐานะการเงิน (รายได้หักรายจ่าย) การออมเงิน การลดลงของหนี้สิน และการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ โดยปัจจัยบวกที่สำคัญ คือ มาตรการช่วยเหลือประชาชนของภาครัฐที่มีอย่างต่อเนื่อง อาทิ การปรับลดราคาน้ำมันเชื้อเพลิงเบนซินและดีเซล มาตรการพักหนี้เกษตรกร การควบคุมราคาสินค้าที่จำเป็นต่อการครองชีพ โดยเฉพาะการบรรเทาภาระค่าใช้จ่าย ซึ่งช่วยลดความกังวลเกี่ยวกับราคาสินค้าและค่าใช้จ่ายได้ นอกจากนี้ธุรกิจที่ให้บริการทางด้านการท่องเที่ยวมีแนวโน้มที่ดีขึ้น อาทิ ธุรกิจที่พักแรม ธุรกิจอาหาร ธุรกิจให้บริการขนส่ง ฯลฯ เนื่องจากเริ่มเข้าสู่ฤดูการท่องเที่ยว ทำให้มีจำนวนนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติเดินทางท่องเที่ยวตามแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ มากขึ้น โดยนักท่องเที่ยวต่างชาติส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อมาก อย่างไรก็ตาม นโยบายภาครัฐเกี่ยวกับการปรับขึ้นค่าแรง ย่อมส่งผลให้ต้นทุนของธุรกิจต่าง ๆ ปรับตัวสูงขึ้นตาม โดยเฉพาะธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม รวมถึงธุรกิจขนาดเล็กต่าง ๆ เนื่องจากธุรกิจเหล่านี้ยังจำเป็นต้องพึ่งพาแรงงานที่รับค่าแรงขั้นต่ำจำนวนมาก หากธุรกิจเหล่านี้มีต้นทุนค่าแรงที่สูงขึ้น ย่อมส่งผลทำให้ต้องปรับราคาสินค้าและบริการให้สูงขึ้น อันจะทำให้ค่าครองชีพของประชาชนปรับตัวสูงขึ้นด้วย ถึงแม้ว่าภาครัฐจะมีนโยบายปรับค่าแรงแบบทยอยปรับขึ้นก็ตาม แต่ราคาสินค้าและบริการก็จะปรับขึ้นตามค่าแรงที่มีการปรับขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
จากการสัมภาษณ์ประชาชนภาคใต้ในหลายสาขาอาชีพ เพื่อรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับความกังวล ความคาดหวัง และความต้องการของประชาชน มีดังนี้
- ประชาชนที่เป็นพนักงานเอกชนมองว่า การปรับขึ้นเงินเดือนข้าราชการ ส่งผลให้ราคาสินค้าและบริการเริ่มทยอยปรับขึ้นตามไปด้วย และหากมีการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำอีก ย่อมส่งผลให้ราคาสินค้าและบริการปรับตัวสูงขึ้นอีก โดยการปรับขึ้นค่าแรงทุกครั้ง ราคาสินค้าและบริการก็จะปรับขึ้นตามเช่นกัน ทั้งนี้ ประชาชนที่เป็นพนักงานเอกชนจำนวนมากที่จบปริญญาตรีและมีรายได้ต่อเดือนไม่ถึง 12,000 บาท และไม่ได้ปรับรายได้เหมือนข้าราชการ แต่พนักงานเอกชนกลุ่มนี้ต้องรับภาระค่าครองชีพที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจากมาตรการของภาครัฐ จึงเสนอแนะให้ภาครัฐควรคำนึงถึงกลุ่มพนักงานเอกชน ซึ่งมีจำนวนไม่น้อยที่จบปริญญาตรีแต่มีรายได้ต่อเดือนไม่ถึง 12,000 บาท แต่ต้องแบกรับภาระค่าครองชีพที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจากนโยบายภาครัฐ ดังนั้น ภาครัฐจึงควรมีมาตรการช่วยเหลือด้วยเช่นกัน
- ถึงแม้ว่าประชาชนจะมีการออกมาจับจ่ายใช้สอย และเดินชมเลือกซื้อสินค้ามากขึ้น แต่จำนวนเงินที่ซื้อสินค้าของประชาชนน้อยลง เนื่องจากประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศยังมีภาระหนี้สิน และมีรายได้ไม่เพียงพอต่อการดำรงชีพ ทำให้ประชาชนเหล่านี้จำเป็นต้องใช้จ่ายอย่างประหยัด ดังนั้น ถึงแม้ว่าในงานแสดงสินค้าต่าง ๆ จะมีจำนวนคนมากขึ้น แต่การใช้จ่ายของประชาชนกลับน้อยลง ซึ่งประชาชนกลุ่มเหล่านี้ต่างเฝ้ารอเงินดิจิทัล 10,000 บาทจากภาครัฐ โดยคาดหวังว่านโยบายนี้จะเกิดขึ้นจริง “ไม่ใช่หลอกให้อยากแล้วจากไป”
- ประชาชนส่วนหนึ่งมีความพึงพอใจต่อมาตรการช่วยเหลือค่าครองชีพ ลดค่าใช้จ่ายของภาครัฐที่ผ่านมา แต่ประชาชนยังมีความกังวลว่า มาตรการต่าง ๆ จะมีความต่อเนื่องและยั่งยืนได้มากน้อยเพียงใด จึงเสนอแนะให้ภาครัฐควรมีนโยบายช่วยหลือค่าครองชีพและลดค่าใช้จ่ายของประชาชนทั้งในระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาวโดยนโยบายดังกล่าวควรเป็นการช่วยเหลือประชาชนแบบถ้วนหน้า และเป็นนโยบายที่ไม่ก่อให้เกิดการคอร์รัปชัน
- ภาคใต้เริ่มเข้าสู่ช่วงฤดูมรสุม จึงมีฝนตกหนัก และเกิดอุทกภัยในหลายพื้นที่ สร้างความเสียหายทั้งในพื้นที่การเกษตร และส่งผลกระทบต่อร้านค้ากลางแจ้ง หาบเร่ แผงลอย ฯลฯ จึงเสนอแนะให้ภาครัฐควรมีมาตรกรป้องกันและช่วยเหลือที่เร่งด่วน โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนทำงานเชิงรุกแบบบูรณาการร่วมกันในการช่วยแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนให้ทันต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
ผลคาดการณ์ในอีก 3 เดือนข้างหน้า พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่เชื่อว่าภาวะเศรษฐกิจโดยรวม และรายได้จากการทำงานเพิ่มขึ้น คิดเป็นร้อยละ 37.10 และ 34.20 ตามลำดับ ส่วนความเชื่อมั่นต่อรายจ่ายเพื่อซื้อสินค้าอุปโภค บริโภคที่จำเป็นในครัวเรือน และรายจ่ายด้านการท่องเที่ยว ในอีก 3 เดือนข้างหน้าเพิ่มขึ้น คิดเป็น ร้อยละ 34.50 และ 34.10 ตามลำดับ ในขณะที่ความเชื่อมั่นด้านความสุขในการดำเนินชีวิต การแก้ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และการแก้ปัญหาเศรษฐกิจในอีก 3 เดือนข้างหน้าเพิ่มขึ้น คิดเป็นร้อยละ 35.40, 32.40 และ 34.10 ตามลำดับ