ดัชนีความเชื่อมั่นของประชาชนในภาคใต้ ด้านเศรษฐกิจและสังคม เดือนตุลาคม 2564
ศูนย์วิจัยนวัตกรรมทางธุรกิจ คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยหาดใหญ่ ได้ดำเนินการจัดทำดัชนีความ
เชื่อมั่นของประชาชนในภาคใต้ ด้านเศรษฐกิจและสังคม โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อวัดการเปลี่ยนแปลงของ สภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจและสังคมของประชาชนในภาคใต้ เก็บแบบสอบถามกับกลุ่มตัวอย่างจากประชาชนในพื้นที่ 14 จังหวัดภาคใต้ จำนวน 420 ตัวอย่าง
ผลการสำรวจความเชื่อมั่นของประชาชนในภาคใต้ ด้านเศรษฐกิจและสังคม เดือนตุลาคม เปรียบเทียบ
เดือนกันยายน และคาดการณ์ในอีก 3 เดือนข้างหน้า
รายการข้อคำถาม | กันยายน | ตุลาคม | คาดการณ์ใน 3 เดือนข้างหน้า | ||||||||
เพิ่มขึ้น/ | คงที่/ | ลดลง/ | เพิ่มขึ้น/ | คงที่/ | ลดลง/ | เพิ่มขึ้น/ | คงที่/ | ลดลง/ | |||
ดีขึ้น | เท่าเดิม | แย่ลง | ดีขึ้น | เท่าเดิม | แย่ลง | ดีขึ้น | เท่าเดิม | แย่ลง | |||
1. ภาวะเศรษฐกิจโดยรวม | 24.10 | 44.40 | 31.50 | 24.30 | 44.80 | 30.90 | 31.70 | 47.50 | 20.80 | ||
2. รายได้จากการทำงาน | 23.30 | 45.70 | 31.00 | 23.70 | 45.30 | 31.00 | 34.60 | 45.20 | 20.20 | ||
3. รายจ่ายเพื่อซื้อสินค้าอุปโภค บริโภคที่จำเป็นในครอบครัว | 24.30 | 48.20 | 27.50 | 24.70 | 47.30 | 28.00 | 36.70 | 44.40 | 18.90 | ||
4. รายจ่ายด้านการท่องเที่ยว เช่น การเดินทาง ที่พัก อาหาร และอื่น ๆ | 33.40 | 46.30 | 20.30 | 33.80 | 46.50 | 19.70 | 33.50 | 49.40 | 17.10 | ||
5. ความสุขในการดำเนินชีวิต | 26.20 | 47.10 | 26.70 | 26.40 | 47.40 | 26.20 | 36.80 | 48.60 | 14.60 | ||
6. ฐานะการเงิน (รายได้หักรายจ่าย) | 26.10 | 45.20 | 28.70 | 26.30 | 45.10 | 28.60 | 32.10 | 46.30 | 21.60 | ||
7. การออมเงิน | 25.20 | 44.80 | 30.00 | 25.10 | 45.70 | 29.20 | 32.10 | 45.10 | 22.80 | ||
8. ค่าครองชีพ | 32.30 | 44.30 | 23.40 | 32.60 | 44.70 | 22.70 | 29.70 | 49.70 | 20.60 | ||
9. ภาระหนี้สิน | 30.60 | 48.10 | 21.30 | 30.90 | 48.50 | 20.60 | 32.80 | 35.70 | 31.50 | ||
10. ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน | 24.30 | 45.60 | 30.10 | 24.60 | 44.80 | 30.60 | 35.60 | 45.80 | 18.60 | ||
11. การแก้ปัญหายาเสพติด | 28.60 | 48.60 | 22.80 | 28.80 | 48.90 | 22.30 | 36.50 | 50.40 | 13.10 | ||
12. การแก้ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ | 27.50 | 48.00 | 24.50 | 27.80 | 47.70 | 24.50 | 38.60 | 47.50 | 13.90 | ||
13. การแก้ปัญหาเศรษฐกิจ | 31.10 | 46.70 | 22.20 | 31.40 | 46.50 | 22.10 | 32.40 | 50.10 | 17.50 | ||
ความเชื่อมั่นของประชาชนในภาคใต้ ด้านเศรษฐกิจและสังคม เดือนสิงหาคม กันยายน และตุลาคม 2564
รายการข้อคำถาม | สิงหาคม | กันยายน | ตุลาคม |
1. ภาวะเศรษฐกิจโดยรวม | 41.10 | 41.90 | 42.10 |
2. รายได้จากการทำงาน | 37.90 | 38.70 | 38.90 |
3. รายจ่ายเพื่อซื้อสินค้าอุปโภค บริโภคที่จำเป็นในครอบครัว | 49.00 | 49.50 | 49.60 |
4. รายจ่ายด้านการท่องเที่ยว เช่น การเดินทาง ที่พัก อาหาร และอื่น ๆ | 37.60 | 38.10 | 39.40 |
5. ความสุขในการดำเนินชีวิต | 46.50 | 47.00 | 47.20 |
6. ฐานะการเงิน (รายได้หักรายจ่าย) | 37.70 | 38.20 | 38.50 |
7. การออมเงิน | 39.30 | 39.50 | 39.60 |
8. ค่าครองชีพ | 43.80 | 44.30 | 44.70 |
9. ภาระหนี้สิน | 48.90 | 49.10 | 49.20 |
10. ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน | 34.20 | 34.80 | 34.90 |
11. การแก้ปัญหายาเสพติด | 48.20 | 47.90 | 47.80 |
12. การแก้ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ | 36.00 | 36.50 | 36.80 |
13. การแก้ปัญหาเศรษฐกิจ | 32.20 | 32.40 | 32.50 |
14. ความเชื่อมั่นของประชาชนโดยรวม | 39.40 | 39.70 | 40.20 |
ผศ.ดร.วิวัฒน์ จันทร์กิ่งทอง ผู้จัดการศูนย์วิจัยนวัตกรรมทางธุรกิจ รายงานผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นของประชาชนในภาคใต้ ด้านเศรษฐกิจและสังคม เดือนตุลาคม 2564 พบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของประชาชนโดยรวมเดือนตุลาคม (40.20) ปรับตัวเพิ่มขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนกันยายน (39.70) เดือนสิงหาคม (39.40) โดยดัชนีที่มีการปรับตัวเพิ่มขึ้น ได้แก่ ภาวะเศรษฐกิจโดยรวม รายได้จากการทำงาน รายจ่ายเพื่อซื้อสินค้าอุปโภค บริโภค รายจ่ายด้านการท่องเที่ยว ฐานะการเงิน (รายได้หักรายจ่าย) การออมเงิน ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน และการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ โดยปัจจัยบวกที่ส่งผลได้แก่ สถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิด -19 เดือนตุลาคม มีแนวโน้มที่ดีขึ้นกว่าเดือนกันยายนส่งผลให้มีการผ่อนคลายมาตรการคุมเข้มการระบาดบางส่วน เช่น ห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร และในเดือนพฤศจิกายน สถานที่ท่องเที่ยวที่เริ่มกลับมาเปิดทำการเพื่อตอบรับนโยบายภาครัฐในการเปิดประเทศโดยมีเป้าหมายเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติโดยไม่ต้องกักตัว (สำหรับประเทศที่มีความเสี่ยงต่ำ) รวมถึงจะมีการผ่อนคลายกิจกรรมทางเศรษฐกิจต่าง ๆ ในประเทศต่อเนื่องอย่างค่อยเป็นค่อยไป ทั้งนี้ ในช่วงที่ผ่านมาสถานการณ์การได้รับวัคซีนมีความคืบหน้าไปในทิศทางที่ดี การส่งมอบและการจัดหาวัคซีนเป็นไปตามแผนการของภาครัฐ แม้ว่าอัตราการฉีดวัคซีนจะยังมีการกระจุกตัวอยู่ในบางพื้นที่เสี่ยง แต่เริ่มมีการจัดสรรไปยังพื้นที่อื่น ๆ เพิ่มขึ้น โดยล่าสุดอัตราการฉีดวัคซีนของไทยเข็มแรกครอบคลุม 58 % และเข็มที่สองครอบคลุม 42 % ของจำนวนประชากร จำนวนผู้ติดเชื้อที่เริ่มทรงตัวและอัตราการฉีดวัคซีนที่คืบหน้าส่งผลให้ภาครัฐอนุมัติมาตรการเกี่ยวกับการท่องเที่ยวทั้งโครงการเราเที่ยวด้วยกันเฟส 3 และทัวร์เที่ยวไทย และการปรับระดับพื้นที่จังหวัดความเสี่ยง เพื่อรองรับการเปิดประเทศ
นอกจากนี้ รายได้ภาคการเกษตรของพืชเศรฐกิจภาคใต้มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น จากความต้องการบริโภคทั่วโลกที่เศรษฐกิจเริ่มกลับมาฟื้นตัวขึ้น สร้างรายได้และเงินหมุนเวียนในเศรษฐกิจภาคใต้ได้อย่างมาก ซึ่งได้แก่ ราคายางพาราที่ปรับตัวสูงขึ้นในระดับ 50 บาทต่อกิโลกรัมและยังทรงตัวในช่วงราคานี้ตลอดเดือนตุลาคม อีกทั้ง ราคาผลไม้ภาคใต้ก็มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นตามความต้องการบริโภคเพิ่มขึ้น รวมทั้งราคาปาล์มน้ำมันได้มีการปรับสูงขึ้นต่อเนื่อง ตลอดเดือนตุลาคม ล่าสุดกิโลกรัมละ 9 บาท ซึ่งเป็นราคาที่สูงสุดในรอบหลายปีที่ผ่านมา สร้างรายได้ให้ชาวสวนเป็นอย่างดี ทำให้ชาวสวนต้องเพิ่มการเฝ้าระวัง ป้องกัน เนื่องจากมีคนร้ายเข้าขโมยตัดผลปาล์มเป็นจำนวนมาก โดยราคาปาล์มน้ำมันที่ปรับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในระยะนี้ ซึ่งเป็นผลจากตลาดโลกมีความต้องการปาล์มมากขึ้น รวมทั้งสหภาพยุโรปที่นำเข้าปาล์มไปผลิตไบโอดีเซล ขณะที่ประเทศผู้ปลูกปาล์มน้ำมันมีผลผลิตลดลงโดยเฉพาะบราซิลประสบภัยแล้ง ทำให้ราคาน้ำมันปาล์มดิบในต่างประเทศขยับขึ้นเป็น กิโลกรัมละ 42 บาท และในประเทศไทยขยับขึ้นเป็น กิโลกรัมละ 44 บาท
จากการสัมภาษณ์ประชาชนภาคใต้ในหลายสาขาอาชีพ เพื่อรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับผลกระทบที่เกิดขึ้น แนวทางการแก้ไข และความคิดเห็นต่อมาตรการต่าง ๆ ของภาครัฐ รวมถึงข้อเสนอแนะต่าง ๆ มีดังนี้
- การฉีดวัคซีนแล้วของจำนวนประชากรยังไม่ถึงเป้า 70% ตามที่รัฐบาลตั้งเป้าหมายไว้ เสนอให้รัฐบาล
จัดทำแผนการฉีดวัคซีนอย่างเป็นระบบ และกระจายไปทั่วทุกพื้นที่ของประเทศ เพื่อให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ในประเทศโดยเร็ว อันจะทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเกิดความมั่นใจในการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย
- ประชาชนส่วนหนึ่งมองว่า การเปิดประเทศเพื่อรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยวนั้น ในช่วงปลายปี 2564 และต้นปี 2565 นักท่องเที่ยวจีน ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของผู้ประกอบการท่องเที่ยวไทย อาจจะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวไม่มากนัก เนื่องจากมีข้อจำกัดหลายประการ ดังนั้น ภาครัฐควรจะสนับสนุนการท่องเที่ยวแบบไทยเที่ยวไทย โดยการเพิ่มสิทธิ์ในโครงการเราเที่ยวด้วยกัน และเพิ่มสิทธิ์ให้แก่ประชาชนที่ใช้สิทธิ์ครบแล้ว เพื่อจูงใจให้คนไทยท่องเที่ยวและใช้จ่ายในช่วงปลายปี 2564 และต้นปี 2565 มากขึ้น ทั้งนี้ ภาครัฐควรมีมาตรการที่รัดกุมและเด็ดขาดเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวกระทำการทุจริตได้
- ราคาพลังงานที่ปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลต่อค่าครองชีพของประชาชนที่สูงขึ้น จึงเสนอให้ภาครัฐกำหนดมาตรการควบคุมราคาพลังงาน และควบคุมราคาสินค้าต่าง ๆ เพื่อไม่ให้ค่าครองชีพสูงขึ้นจนทำให้ประชาชนเกิดความเดือดร้อน
- ประชาชนส่วนหนึ่งเสนอให้ภาครัฐทบทวนการเปิดสถานบันเทิงในเดือนธันวาคม 2564 เนื่องจากการฉีดวัคซีนโควิด-19 ของประชาชนยังไม่ครอบคลุมจนเกิดเป็นภูมิคุ้มกันหมู่ อีกทั้ง สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ตั้งแต่ระลอก 1 ถึงระลอก 4 ล้วนมาจากสถานบันเทิงแทบทั้งสิ้น โดยเฉพาะสถานบันเทิงที่ขายแอลกอฮอล์ โดยประชาชนมีความกังวลว่า สถานบันเทิงอาจจะเป็นคลัสเตอร์ของการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่อีก และส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจอื่น ๆ ทำให้ธุรกิจต่าง ๆ ต้องถูกสั่งปิดกิจการอีก โดยประชาชนส่วนหนึ่งกล่าวว่า หากภาครัฐยังยืนยันจะเปิดสถานบันเทิง และเกิดการแพร่ระบาดโควิด-19 ระลอกใหม่ ภาครัฐจะต้องชดเชยรายได้ให้แก่ภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบทั้งหมด
ผลคาดการณ์ในอีก 3 เดือนข้างหน้า พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่เชื่อว่าภาวะเศรษฐกิจโดยรวม และรายได้จากการทำงานจะเพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ 31.70 และ 34.60 ตามลำดับ ส่วนความเชื่อมั่นต่อรายจ่ายเพื่อซื้อสินค้าอุปโภค บริโภคที่จำเป็นในครัวเรือน และรายจ่ายด้านการท่องเที่ยว ในอีก 3 เดือนข้างหน้า จะเพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ 36.70 และ 33.50 ตามลำดับ ส่วนความเชื่อมั่นด้านความสุขในการดำเนินชีวิต การแก้ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และการแก้ปัญหาเศรษฐกิจในอีก 3 เดือนข้างหน้า จะเพิ่มขึ้น คิดเป็นร้อยละ 36.80 , 38.60 และ 32.40 ตามลำดับ
ปัจจัยที่ประชาชนส่วนใหญ่มองว่ามีผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจและสังคมในปัจจุบันมากที่สุด คือ การเปิดประเทศเพื่อรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ คิดเป็นร้อยละ 27.40 รองลงมา คือ มาตรการควบคุมการดำเนินงานของธุรกิจ และค่าครองชีพ คิดเป็นร้อยละ 21.30 และ17.60 ตามลำดับ ขณะที่ปัญหาเร่งด่วนที่ประชาชนส่วนใหญ่มองว่ารัฐบาลควรให้ความช่วยเหลือเป็นอันดับแรก คือ มาตรการรองรับการเปิดประเทศ รองลงมา คือ การปรับมาตรการให้ธุรกิจดำเนินงานได้ปกติ การพักหนี้ของประชาชน และการเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบ ตามลำดับ