เอไอเอส ร่วมกับ กสทช.ภาค4 จัดเสวนา “คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจากเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์มือถือไม่อันตรายต่อสุขภาพ” ให้แก่สื่อมวลชน

Spread the love

วันที่ 27 มิถุนายน  2560 เอไอเอส ร่วมกับ กสทช.ภาค4 จัดเสวนา “คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจากเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์มือถือไม่อันตรายต่อสุขภาพ” ให้แก่สื่อมวลชน – ศูนย์ดำรงธรรม – สคบ.จังหวัดสงขลา เพื่อเผยแพร่ข้อมูลจากหน่วยงานภาครัฐ และสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจากเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์มือถือในการนำเสนอหรือเผยแพร่สู่สาธารณะต่อไป 

 

นายวิฤทธิ์ บุญเอิบ ผู้อำนวยการสำนักปฏิบัติการด้านเทคนิค-ภาคใต้  บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส กล่าวว่า เอไอเอสในฐานะเป็นผู้ให้บริการสื่อสาร โทรคมนาคมขอมีส่วนร่วมในการแสดงความรับผิดชอบต่อชุมชน และสังคม เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ชุมชนถึงคลื่นความถี่แม่เหล็กไฟฟ้าที่ปล่อยออกมาจากเสาส่งสัญญาณซึ่งเอไอเอสได้ปฏิบัติตามแนวทางมาตรฐานความปลอดภัยที่สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.)กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด เนื่องจากปัจจุบันผู้ประกอบการทุกรายเดินหน้าขยายการติดตั้งเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์มือถือเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะภายในพื้นที่ชุมชนเพื่อรองรับจำนวนความต้องการใช้งานที่เพิ่มสูงขึ้น และเพื่อให้ทุกคนสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีทางการสื่อสารได้อย่างเท่าเทียมกันในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ตามนโยบายภาครัฐที่กำลังขับเคลื่อนประเทศไปสู่ “ไทยแลนด์ 4.0” โดยสิ่งสำคัญอย่างหนึ่งที่ภาครัฐ และเอกชนต่างเดินหน้าขยายโครงสร้างพื้นฐานเพื่อประชาชนทุกคนในประเทศสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีดิจิทัล และการสื่อสารได้อย่างเท่าเทียมกัน แต่ยังมีประชาชนในชุมชนบางพื้นที่มีข้อวิตกกังวลจากการที่มีเสาส่งสัญญาณตั้งอยู่บริเวณที่พักอาศัย 

 

ทั้งนี้ เอไอเอส ได้ร่วมกับกสทช.ภาค 4 จัดงานเสวนาให้ความรู้ในหัวข้อ“คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจากเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์มือถือไม่อันตรายต่อสุขภาพ”เพื่อทำความเข้าใจ และให้ข้อมูลที่ถูกต้องในประเด็นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจากเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์มือถือกับสื่อมวลชนทุกแขนง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ศูนย์ดำรงธรรม สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค(สคบ.) และประชาสัมพันธ์จังหวัดสงขลาในการเป็นสื่อกลางนำเสนอข้อมูลที่ถูกต้องเผยแพร่สู่สาธารณชนต่อไป ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางของกสทช.ที่มีการจัดเสวนาเพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับการแผ่คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจากเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์มือถือต่อความปลอดภัยด้านสุขภาพ ให้กับนักวิชาการ ข้าราชการ นักเรียน นักศึกษาและประชาชนได้รับทราบ เช่นเดียวกัน โดยมีวิทยากรจากสำนักงาน กสทช. และกระทรวงสาธารณสุขเป็นผู้ให้ข้อมูล 

 

ดร.ธีรศักดิ์  อนันตกุล  ผู้อำนวยการสำนักวางแผนและพัฒนาโครงข่ายวิทยุ และผู้เชี่ยวชาญด้านคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า  กล่าวว่า คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจากเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์มือถือที่มีประชาชนวิตกกังวลนั้น ความจริงแล้วไม่ได้ส่งผลกระทบต่อสุขภาพร่างกายมนุษย์ และสัตว์ เพราะว่าคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าดังกล่าว มีกำลังส่งที่ต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐานที่ กสทช. กำหนดไว้ เช่นเดียวกับโครงสร้างเสาส่งสัญญาณที่ก่อสร้างตามหลักวิศวกรรมที่เป็นไปตามมาตรฐานของสถาบันวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย และกสทช. 

โดยจากงานวิจัยระบุว่าคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้ามี 2 ประเภท คือ คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้ากลุ่มชนิดไม่ก่อไอออน (Non-ionizing radiation) ซึ่งเป็นย่านความถี่ชนิดที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงพันธุกรรม หรือดีเอ็นเอ(DNA) ในมนุษย์ และสัตว์ได้ เนื่องจากเป็นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าความถี่ต่ำ ซึ่งจะอยู่ในกลุ่มคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจากเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์มือถือ ,คลื่นจากวิทยุ เอเอ็ม เอฟเอ็ม ,โทรทัศน์ และคลื่นจากวิทยุสื่อสารตำรวจหรือกู้ภัย สัญญาณ WI-FI เช่นเดียวกับแสงแดด (UV) ที่ถือเป็นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่มีทั้งความถี่ต่ำ และความถี่สูง    นอกจากนี้องค์การอนามัยโลก (World Health Organization หรือ WHO) ได้กำหนดให้คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าความถี่ต่ำอยู่ในกลุ่ม 2B ซึ่งเป็นกลุ่มเดียวกับ กาแฟ ,น้ำมันหอมระเหย และสารสกัดทั้งกลีบใบของว่านหางจระเข้ หรือน้ำมันมะพร้าวที่ผสมกับไดเอทาโนลาไมด์ สำหรับทำให้เกิดฟองในผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดจำพวกแชมพู สบู่ รวมไปถึงเครื่องสำอาง และสารสกัด เป็นต้น โดยทั้งหมดถือเป็นกลุ่มที่อาจจะ หรืออาจเสี่ยงก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพเท่านั้น 

“ปัจจุบันยังไม่มีผลวิจัยใดที่ชี้ชัดว่าคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจากเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์มือถือมีผลกระทบทำให้เกิดโรคต่างๆต่อร่างกายมนุษย์หรือสัตว์เลย เช่นเดียวกับ กสทช. ที่ออกมาระบุอย่างชัดเจนว่าคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจากเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์มือถือทั่วประเทศมีเกณฑ์ต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐานที่ กสทช.กำหนดไว้ ดังนั้นประชาชน และผู้ที่อาศัยอยู่บริเวณรอบเสาส่งสัญญาณจึงมั่นใจได้ว่าจะไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด”  ขณะที่คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้ากลุ่มชนิดก่อไอออน(Ionizing-radiation) ซึ่งเป็นคลื่นที่มีผลต่ออะตอม และมีผลต่อการแยกอนุภาคอีเล็กตรอนออกไปกลายเป็นอนุมูลอิสระซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดโรคมะเร็ง เช่น คลื่นจากรังสีแกมมา รังสีเอ็กซ์ เป็นต้น

ในประเด็นเรื่องความปลอดภัยของโครงสร้างเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์มือถือนั้น ทางบริษัทฯได้ดำเนินการติดตั้งก่อสร้างตามหลักวิศวกรรมที่เป็นไปตามมาตรฐานของสถาบันวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย และ กสทช. ซึ่งในการดำเนินงานก่อสร้างจะปฏิบัติตามขั้นตอนอย่างเคร่งครัด ดังนั้นจึงมีความมั่นคง แข็งแรงของโครงสร้างที่สามารถทนต่อแรงลมปะทะได้สูงสุดถึง 130 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งเทียบเท่ากับระดับความแรงของพายุไต้ฝุ่นหรือแม้แต่แผ่นดินไหวก็ตาม 

 

 

Facebook Comments Box


Spread the love

Written by 

Related posts

Verified by ExactMetrics