สรุปผลการสำรวจหาดใหญ่โพล  HATYAI  POLL  เรื่อง “ การเปิดเมือง-เปิดธุรกิจของจังหวัดสงขลา”

Spread the love

สรุปผลการสำรวจหาดใหญ่โพล  HATYAI  POLL  เรื่อง การเปิดเมืองเปิดธุรกิจของจังหวัดสงขลา

 

รองศาสตราจารย์ทัศนีย์ ประธาน ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายวิจัย มหาวิทยาลัยหาดใหญ่ เปิดเผยผลการสำรวจ “หาดใหญ่โพล” ในเรื่อง “ความคิดเห็นของประชาชนในจังหวัดสงขลาต่อการเปิดเมือง-เปิดธุรกิจ” โดยการเก็บแบบสำรวจออนไลน์ จำนวน 480 คน ระหว่างวันที่ 13-14 พฤษภาคม 2563 โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

 

สถานภาพและข้อมูลทั่วไปของกลุ่มตัวอย่าง

                กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง(ร้อยละ56.04) อายุอยู่ในช่วง 41-50 ปี (ร้อยละ 28.75)  รองลงมา  ช่วงอายุ  51-60 ปี (ร้อยละ 25.00) และช่วงอายุ  31-40 ปี (ร้อยละ17.71)ตามลำดับ กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ประกอบธุรกิจส่วนตัว/ค้าขาย (ร้อยละ 25.42) รองลงมา รับราชการ/พนักงานรัฐวิสาหกิจ พนักงานบริษัทเอกชน และรับจ้าง คิดเป็นร้อยละ 22.71 21.25และ 12.29ตามลำดับ นอกจากนี้ประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ78.12 ได้รับผลกระทบต่ออาชีพและรายได้จากการปิดเมือง โดยประชาชนร้อยละ 37.71  มีรายได้ลดลงจากเดิมในช่วงสถานการณ์โควิด-19  และไม่สามารถประกอบอาชีพได้/ขาดรายได้/ถูกเลิกจ้าง(ร้อยละ 16.88) มีเพียงร้อยละ 21.88 ที่ไม่ได้รับผลกระทบต่ออาชีพ การทำงานและรายได้จากสถานการณ์โควิด-19 ทั้งนี้กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ร้อยละ 56.25 รับรู้ข่าวสารสถานการณ์โควิด-19 ผ่านโซเชียลมีเดีย เช่น Line, Facebookมากที่สุด รองลงมา ผ่านโทรทัศน์และเว็บไซต์ คิดเป็นร้อยละ 34.38 และ 7.29 ตามลำดับ

สรุปผลการสำรวจ

  1. ความมั่นใจของประชาชนและความคิดเห็นต่อการเปิดเมือง-เปิดธุรกิจในจังหวัดสงขลา

ความมั่นใจความพร้อมในการเปิดให้บริการของสถานประกอบการในจังหวัดสงขลาพบว่า ประชาชนชาวสงขลาร้อยละ 46.88มีความมั่นใจต่อความพร้อมในการเปิดให้บริการของสถานประกอบการในจังหวัดสงขลาในระดับปานกลาง และร้อยละ 26.67 มีความมั่นใจต่อความพร้อมในการเปิดให้บริการของสถานประกอบการในจังหวัดสงขลาในระดับมากถึงมากที่สุด  และร้อยละ 26.46  ที่ไม่มีความมั่นใจต่อความพร้อมในการเปิดให้บริการ ส่วนประเภทของสถานประกอบการที่ควรเปิดให้บริการโดยเร็วที่สุด 3 อันดับแรกได้แก่ ร้านอาหาร (ร้อยละ 76.83) รองลงมา ร้านค้าปลีกทั่วไป เช่น ร้านขายเสื้อผ้า  ร้านหนังสือ(ร้อยละ 48.43)และสถานศึกษา(ร้อยละ 43.63)  นอกจากนี้ยังให้ข้อเสนอแนะในมาตรการที่จะทำให้เกิดความมั่นใจในการเปิดเมืองและเปิดธุรกิจในจังหวัดสงขลา  พบว่า ส่วนใหญ่ร้อยละ 73.96ต้องการให้สถานประกอบการมีการทำความสะอาด ฆ่าเชื้ออุปกรณ์และสถานที่ให้บริการอยู่ทุกวัน จะทำให้เกิดความมั่นใจมาก รองลงมา  เป็นสถานประกอบการมีมาตรการในการจัดระยะห่างทางสังคมในการให้บริการได้  และมีบทลงโทษหรือสั่งปิดสถานประกอบการที่ไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัยเบื้องต้นของรัฐ เช่น  พนักงานไม่สวมหน้ากากหรือFace Shield  คิดเป็นร้อยละ68.75 และ 59.17  ตามลำดับ สำหรับความคิดเห็นของประชาชนว่าควรเปิดเมือง-เปิดธุรกิจเมื่อไรนั้น  กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ร้อยละ41.67เห็นว่าควรจะเปิดเมืองสงขลา -เปิดธุรกิจ  เมื่อมีระบบและมาตรการดูแลประชาชนและสถานประกอบการอย่างชัดเจนในการก่อนเปิดให้บริการรองลงมาเปิดเมื่อไม่มีผู้ติดเชื้อโควิดในจังหวัดสงขลาติดต่อกันมาไม่น้อยกว่า 14 วันและเปิดเมื่อประเทศไทยไม่มีผู้ติดเชื้อโควิดติดต่อกันมาไม่น้อยกว่า 14 วันคิดเป็นร้อยละ17.92  และ 16.88ตามลำดับมีเพียงร้อยละ 11.46 ที่เห็นว่าสามารถเปิดเมืองได้ทันที

สำหรับข้อเสนอต่อจังหวัดสงขลาเกี่ยวกับมาตรการจัดการสถานการณ์การระบาดโควิด-19ของชาวจังหวัดสงขลาให้ข้อเสนอแนะดังนี้ ร้อยละ 90.00 เห็นว่าควรมีระบบการตรวจคัดกรองและกักตัวผู้เดินทางเข้าประเทศผ่านด่านชายแดนให้รัดกุมมากที่สุด รองลงมา คือ มีแผนฟื้นฟูเมืองและธุรกิจหลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายลงอย่างเป็นรูปธรรม และเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหาร ดูแลมิให้มีคนข้ามแดนผ่านช่องทางธรรมชาติ คิดเป็นร้อยละ 61.46 และ 60.83 ตามลำดับ

ในด้านขนส่งสาธารณะชาวสงขลาส่วนใหญ่ร้อยละ 79.38   เห็นว่าควรควรมีมาตรการเกี่ยวกับการให้บริการขนส่งสาธารณะทำความสะอาดรถและฆ่าเชื้อในรถทุกครั้ง/ทุกเที่ยว มากที่สุด รองลงมา กำหนดมาตรฐานจำนวนผู้โดยสารที่เหมาะกับขนาดของรถที่ไม่เกิดความเสี่ยงโดยไม่ขึ้นราคาและมีการบันทึกข้อมูลผู้โดยสารเท่าที่จำเป็น เพื่อสามารถติดตามผู้มีความเสี่ยงย้อนหลังได้ คิดเป็นร้อยละ 76.67 และ 51.04  ตามลำดับ นอกจากนี้ยังให้ข้อคิดเห็นที่เกี่ยวกับการดำเนินงานของภาครัฐ โดยส่วนใหญ่ร้อยละ 84.16เห็นด้วยที่ภาครัฐจะบังคับให้ประชาชนติดตั้งแอปพลิเคชั่นบนโทรศัพท์ เช่นAppหมอชนะ เพื่อให้มีข้อมูลของคนที่เข้าใช้บริการสถานที่ต่างๆ และช่วยป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 โดยร้อยละ 61.04 มีเงื่อนไขว่าภาครัฐจะไม่นำข้อมูลส่วนตัวไปใช้ในทางที่ผิดมีเพียงร้อยละ 15.84 ไม่เห็นด้วยที่ภาครัฐจะบังคับให้ประชาชนติดตั้งแอปพลิเคชั่นบนโทรศัพท์

  1. มุมมองชีวิตของประชาชนหลังสถานการณ์โควิด-19

ชาวสงขลาร้อยละ 46.46  เห็นว่าเมื่อเหตุการณ์โควิด-19 คลี่คลายจะมีการเปลี่ยนแปลง

พฤติกรรมการใช้ชีวิต  ร้อยละ 20.21 ไม่เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการใช้ชีวิต และร้อยละ 33.33 ยังไม่แน่ใจ  ส่วนของผู้ประกอบการส่วนใหญ่ร้อยละ  63.36 เห็นว่าต้องมีการปรับเปลี่ยนธุรกิจให้สอดรับกับวิกฤตโควิด-19มีเพียงร้อยละ 15.07 ที่จะไม่เปลี่ยนแปลงธุรกิจหลังเหตุการณ์โควิด-19 และร้อยละ  21.57  ยังไม่แน่ใจ นอกจากนี้สิ่งที่ชาวสงขลาต้องการทำเป็นอันดับแรกหลังเหตุการณ์โควิด-19 พบว่า ร้อยละ 52.29 ต้องการใช้ชีวิตตามปกติ    มากที่สุด  รองลงมา เป็นการตรวจสุขภาพ นัดพบญาติหรือเพื่อนฝูงที่ไม่ได้พบกันนานเดินทาง-ท่องเที่ยวต่างจังหวัด และท่องเที่ยวภายในจังหวัดสงขลา คิดเป็นร้อยละ 12.08  9.17  8.75  และ 7.29 ตามลำดับ

สำหรับมุมมองของประชาชนในด้านข้อดีของเหตุการณ์โควิด-19  คนสงขลาส่วนใหญ่ได้เห็นถึงความร่วมมือร่วมใจของภาคส่วนต่างๆ มากขึ้นในเหตุการณ์โควิด-19 มากที่สุด (ร้อยละ 55.20) รองลงมา ลดการใช้พลังงานและทรัพยากร ทำให้สิ่งแวดล้อมดีขึ้น  เป็นโอกาสในการพัฒนาตนเอง เช่น เรียนรู้ทักษะใหม่ๆ และได้มีเวลาได้อยู่กับครอบครัวมากขึ้น คิดเป็นร้อยละ 53.34  52.29 และ 50.63  ตามลำดับ

              

Facebook Comments Box


Spread the love

Written by 

Related posts

Verified by ExactMetrics