กฟผ.ร่วมจัดกิจกรรม “ปั่น ปั่น รัก เทพา” ครั้งที่ 1
นักปั่นจักรยานกว่า 1000 คน ร่วมกิจกรรม” ปั่น ปั่น รัก เทพา” ครั้งที่ 1 ส่งเสริมให้ประชาชนหันมาออกกำลังด้วยการปั่นจักรยาน ชื่นชมเส้นทางธรรมชาติที่สวยงาม พร้อมกันนี้รายได้ส่วนหนึ่งมอบให้กับเด็กด้อยโอกาส ผู้พิการ และผู้ป่วยติดเตียงในอำเภอเทพา
วันนี้ (9 เมษายน 2560) ณ ลานวัฒนธรรมอำเภอเทพา ชมรมจักรยานเสือริมเขื่อนเทพา ร่วมกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา อำเภอเทพา การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย หน่วยงานราชการ องค์การบริหารส่วนท้องถิ่นในอำเภอเทพา และเครือข่ายภาคประชาชน จัดกิจกรรม” ปั่น ปั่น รัก เทพา” ครั้งที่ 1 ขึ้นโดยมีนายนิพนธ์ บุญญามณี นายก อบจ.สงขลา เป็นประธานในพิธี ร่วมด้วยว่าที่ร้อยตรีศราวุธ เจียรมาศ ปลัดอาวุโสอำเภอเทพา นายวีระชัย ยอดเพชร หัวหน้าโครงการเตรียมงานพัฒนาโรงไฟฟ้าเทพา พร้อมด้วยนักกีฬาปั่นจักรยานเข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้กว่า 1000 คน
การจัดกิจกรรมครั้งนี้เพื่อเป็นการร่วมกันเทิดพระเกียรติ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณบดินทรเทพยวรางกูรและร่วมไว้อาลัยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ ส่งเสด็จสู่สวรรคาลัย นอกจากนั้นยังเป็นการจัดหารายได้เพื่อสนับสนุนทุนการศึกษาเด็กด้อยโอกาส ผู้พิการ ผู้ป่วยติดเตียงในพื้นที่อำเภอเทพา อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมการปั่นจักรยานเพื่อสุขภาพภายในชุมชนและเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงนิเวศลุ่มน้ำเทพา และเชิงวัฒนธรรมของชุมชนอำเภอเทพา โดยร่วมกันปั่นจักรยานระยะทาง 32 กิโลเมตร ผ่านเส้นทางถนนตลาดเทพาและหมู่บ้านต่างๆในอำเภอเทพา ซึ่งเป็นเส้นทางที่มีทัศนียภาพที่สวยงามอีกด้วย
นายแพทย์อุทิศศักดิ์ หิริรัตนกุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสงขลา กล่าวว่า “เป็นกิจกรรมสำคัญที่ประชารัฐร่วมกันจัด ทำให้เกิดความยิ่งใหญ่ ซึ่งวัตถุประสงค์ของการจัดกิจกรรมมีความสำคัญมากไม่ว่าจะเป็นการเทิดพระเกียรติรัชกาลที่ 10 หรือถวายความอาลัยแด่รัชกาลที่ 9 นอกจากนั้นยังมีการนำรายได้ที่ได้รับมอบให้แก่ผู้ด้อยโอกาส ผู้ป่วยติดเตียง ซึ่งนอกจากยังเป็นการทำบุญแล้วยังเป็นการส่งเสริมสุขภาพอีกด้วย”
นายภูดิศ บวรณรงค์เดช ประธานชมรมจักรยานเสือริมเขื่อนเทพา กล่าวว่า “กิจกรรมครั้งนี้ได้รับความร่วมมือจากนักปั่นทั้งจากจังหวัดสงขลา ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส มากันพร้อมหน้า มีความปลื้มปิติยินดีกับคนเทพามากๆ หน่วยงานหลักๆ ที่ให้การสนับสนุนทำให้เกิดความยิ่งใหญ่ในครั้งนี้คือ กฟผ. ก็ขอขอบคุณที่เข้ามาในพื้นที่แล้วสร้างความสมานฉันท์ ทำให้เกิดกิจกรรมดีๆ แบบนี้”
