ดัชนีความเชื่อมั่นของประชาชนในภาคใต้ ด้านเศรษฐกิจและสังคม เดือนพฤศจิกายน 2565
ศูนย์วิจัยนวัตกรรมทางธุรกิจ คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยหาดใหญ่ ได้ดำเนินการจัดทำดัชนีความเชื่อมั่นของประชาชนในภาคใต้ ด้านเศรษฐกิจและสังคม โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อวัดการเปลี่ยนแปลงของ สภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจและสังคมของประชาชนในภาคใต้ เก็บแบบสอบถามกับกลุ่มตัวอย่างจากประชาชนในพื้นที่ 14 จังหวัดภาคใต้ จำนวน 420 ตัวอย่าง
ผลการสำรวจความเชื่อมั่นของประชาชนในภาคใต้ ด้านเศรษฐกิจและสังคม เดือนพฤศจิกายน เปรียบเทียบเดือนตุลาคม และคาดการณ์ในอีก 3 เดือนข้างหน้า
รายการข้อคำถาม | ตุลาคม 2565 | พฤศจิกายน 2565 | คาดการณ์ใน 3 เดือนข้างหน้า | ||||||||
เพิ่มขึ้น/ | คงที่/ | ลดลง/ | เพิ่มขึ้น/ | คงที่/ | ลดลง/ | เพิ่มขึ้น/ | คงที่/ | ลดลง/ | |||
ดีขึ้น | เท่าเดิม | แย่ลง | ดีขึ้น | เท่าเดิม | แย่ลง | ดีขึ้น | เท่าเดิม | แย่ลง | |||
1. ภาวะเศรษฐกิจโดยรวม | 27.40 | 48.70 | 23.90 | 27.70 | 48.80 | 23.50 | 35.40 | 48.30 | 16.30 | ||
2. รายได้จากการทำงาน | 26.60 | 45.10 | 28.30 | 26.90 | 45.30 | 27.80 | 37.10 | 48.50 | 14.40 | ||
3. รายจ่ายเพื่อซื้อสินค้าอุปโภค บริโภคที่จำเป็นในครอบครัว | 28.50 | 47.80 | 23.70 | 28.70 | 47.70 | 23.60 | 34.50 | 49.30 | 16.20 | ||
4. รายจ่ายด้านการท่องเที่ยว เช่น การเดินทาง ที่พัก อาหาร และอื่น ๆ | 26.50 | 45.70 | 27.80 | 26.80 | 45.90 | 27.30 | 36.20 | 52.10 | 11.70 | ||
5. ความสุขในการดำเนินชีวิต | 26.90 | 47.50 | 25.60 | 26.70 | 48.50 | 24.80 | 33.50 | 58.20 | 18.30 | ||
6. ฐานะการเงิน (รายได้หักรายจ่าย) | 26.70 | 46.80 | 26.50 | 26.90 | 45.50 | 27.60 | 34.20 | 45.60 | 20.20 | ||
7. การออมเงิน | 25.80 | 47.20 | 27.00 | 25.60 | 48.80 | 25.60 | 35.80 | 49.70 | 14.50 | ||
8. การรักษามาตรฐานค่าครองชีพ | 28.70 | 45.60 | 25.70 | 28.60 | 45.50 | 25.90 | 34.70 | 51.70 | 13.60 | ||
9. การลดลงของหนี้สิน | 28.50 | 45.80 | 25.70 | 28.30 | 46.20 | 25.50 | 30.20 | 45.60 | 24.20 | ||
10. ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน | 26.80 | 45.80 | 27.40 | 26.40 | 45.50 | 28.10 | 35.60 | 45.80 | 18.60 | ||
11. การแก้ปัญหายาเสพติด | 27.10 | 41.60 | 31.30 | 27.40 | 42.10 | 30.50 | 36.50 | 50.40 | 13.10 | ||
12. การแก้ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ | 27.50 | 43.40 | 29.10 | 27.80 | 43.60 | 28.60 | 38.60 | 47.50 | 13.90 | ||
13. การแก้ปัญหาเศรษฐกิจ | 29.20 | 44.20 | 26.60 | 29.60 | 44.50 | 25.90 | 32.40 | 50.10 | 17.50 | ||
ความเชื่อมั่นของประชาชนในภาคใต้ด้านเศรษฐกิจและสังคม เดือนกันยายน ตุลาคม และพฤศจิกายน 2565
รายการข้อคำถาม | 2565 | ||
กันยายน | ตุลาคม | พฤศจิกายน | |
1. ภาวะเศรษฐกิจโดยรวม | 45.10 | 46.30 | 47.10 |
2. รายได้จากการทำงาน | 41.40 | 42.50 | 42.70 |
3. รายจ่ายเพื่อซื้อสินค้าอุปโภค บริโภคที่จำเป็นในครอบครัว | 56.80 | 56.90 | 57.20 |
4. รายจ่ายด้านการท่องเที่ยว เช่น การเดินทาง ที่พัก อาหาร และอื่น ๆ | 46.90 | 48.20 | 48.30 |
5. ความสุขในการดำเนินชีวิต | 49.20 | 49.60 | 49.80 |
6. ฐานะการเงิน (รายได้หักรายจ่าย) | 40.90 | 41.10 | 41.30 |
7. การออมเงิน | 39.20 | 39.90 | 40.40 |
8. การรักษามาตรฐานค่าครองชีพ | 39.70 | 39.60 | 39.50 |
9. การลดลงของหนี้สิน | 48.00 | 47.70 | 47.50 |
10. ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน | 42.30 | 43.00 | 42.90 |
11. การแก้ปัญหายาเสพติด | 42.50 | 41.80 | 41.00 |
12. การแก้ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ | 36.20 | 36.10 | 35.60 |
13. การแก้ปัญหาเศรษฐกิจ | 33.10 | 33.40 | 33.50 |
14. ความเชื่อมั่นของประชาชนโดยรวม | 42.60 | 43.10 | 43.70 |
ผศ.ดร.วิวัฒน์ จันทร์กิ่งทอง ผู้จัดการศูนย์วิจัยนวัตกรรมทางธุรกิจ รายงานผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นของประชาชนในภาคใต้ ด้านเศรษฐกิจและสังคม พบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของประชาชนโดยรวมเดือนพฤศจิกายน 2565 (43.70) ปรับเพิ่มขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนตุลาคม 2565 (43.10) และเดือนกันยายน (42.60) โดยดัชนีที่มีการปรับตัวเพิ่มขึ้น ได้แก่ ภาวะเศรษฐกิจโดยรวม รายได้จากการทำงาน รายจ่ายเพื่อซื้อสินค้าอุปโภค บริโภคที่จำเป็นในครอบครัว รายจ่ายด้านการท่องเที่ยว ความสุขในการดำเนินชีวิต ฐานะการเงิน (รายได้หักรายจ่าย) การออมเงิน และการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ โดยปัจจัยบวกที่สำคัญ ได้แก่ การท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง โดยคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาในไทยราว 10.3 ล้านคนในปี 2565 จากความต้องการเดินทางท่องเที่ยวที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เป็นเพราะการผ่อนคลายมาตรการจำกัดการเดินทางระหว่างประเทศทั่วโลก และในไตรมาสที่ 4 เป็นช่วง High season นักท่องเที่ยวจากประเทศเมืองหนาวจะเดินทางมาไทย อีกทั้ง คนไทยเองก็มีแนวโน้มท่องเที่ยวในประเทศมากขึ้น รวมถึงการบริโภคภาคเอกชนที่ได้รับอานิสงส์จากภาคการท่องเที่ยวและบริการที่เกี่ยวข้อง ส่งผลให้ภาคบริการในภาพรวมที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยว เช่น โรงแรม ร้านอาหาร การขนส่ง ปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ถึงแม้ว่าการท่องเที่ยวและการบริการจะเป็นฟันเฟืองหลักช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย แต่การขยายตัวของเศรษฐกิจที่จะปรับตัวดีขึ้น ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว โดยนอกพื้นที่แหล่งท่องเที่ยว การขยับตัวของเศรษฐกิจดีขึ้นเพียงเล็กน้อย จึงทำให้ผู้ประกอบการอีกจำนวนมากที่ยังไม่ฟื้นตัว นอกจากนี้การลงทุนชะลอลงมาก เนื่องจากค่าครองชีพและต้นทุนของภาคธุรกิจที่ยังคงสูงอยู่ อีกทั้ง รายได้ครัวเรือนของประชาชนผู้มีรายได้น้อยถึงปานกลางไม่สมดุลกับรายจ่ายในปัจจุบัน ตลอดจนภาวะเงินเฟ้อสูง ดอกเบี้ยเงินกู้สูง ส่งผลให้ภาระหนี้สูงขึ้น และความไม่แน่นอนทางการเมืองกระทบความเชื่อมั่นในการลงทุนระยะยาว
จากการสัมภาษณ์ประชาชนภาคใต้ในหลายสาขาอาชีพ เพื่อรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับผลกระทบที่เกิดขึ้น แนวทางการแก้ไข และความคิดเห็นต่อมาตรการต่าง ๆ ของภาครัฐ รวมถึงข้อเสนอแนะต่าง ๆ มีดังนี้
- ประชาชนมีความกังวลกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งเริ่มกลับมาระบาดอีกครั้งในพื้นที่ชุมชนเมือง ซึ่งประชาชนต้องการให้ภาครัฐกำหนดมาตรการในการรองรับการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่มีแนวโน้มที่จะมีผู้ติดเชื้อจำนวนมากในขณะนี้
- จากสภาพเศรษฐกิจที่มีการปรับตัวดีขึ้น โดยส่วนใหญ่จะอยู่ในตัวเมือง และบริเวณพื้นที่ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว ทั้งนี้ ประชาชนที่อยู่ในชนบทและไม่ได้อยู่ใกล้แหล่งท่องเที่ยวยังไม่ฟื้นตัวอีกจำนวนมาก และต้องการให้ภาครัฐช่วยเหลือในการส่งเสริมและกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศให้กระจายไปทุกพื้นที่ของประเทศ
ผลคาดการณ์ในอีก 3 เดือนข้างหน้า พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่เชื่อว่าภาวะเศรษฐกิจโดยรวม และรายได้จากการทำงานจะเพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ 35.40 และ 37.10 ตามลำดับ ส่วนความเชื่อมั่นต่อรายจ่ายเพื่อซื้อสินค้าอุปโภค บริโภคที่จำเป็นในครัวเรือน และรายจ่ายด้านการท่องเที่ยว ในอีก 3 เดือนข้างหน้า จะเพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ 34.50 และ 36.20 ตามลำดับ ส่วนความเชื่อมั่นด้านความสุขในการดำเนินชีวิต การแก้ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และการแก้ปัญหาเศรษฐกิจในอีก 3 เดือนข้างหน้า จะเพิ่มขึ้น คิดเป็นร้อยละ 33.50 38.60 และ 32.40 ตามลำดับ
ปัจจัยที่ประชาชนส่วนใหญ่ต้องการให้ภาครัฐควรรีบดำเนินการแก้ไขอย่างเร่งด่วน คือ 1) การปราบปรามยาเสพติดและบ่อนการพนัน 2) การปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชัน และ 3) การปฏิรูปตำรวจและกระบวนการยุติธรรม ในส่วนของปัญหาที่ประชาชนต้องการได้รับความช่วยเหลือจากภาครัฐ อันดับแรก คือ การลดค่าครองชีพของประชาชน รองลงมา คือ การเพิ่มรายได้ให้กับผู้ที่มีรายได้น้อย การให้สถาบันการเงินของรัฐปล่อยสินเชื่อให้กับผู้มีรายได้น้อย และการช่วยเหลือภาระหนี้สินของประชาชน