นิพนธ์ฯ แนะใช้ cctv ตรวจจับชะลอความเร็ว ช่วยคนจากอุบัติเหตุ เผยยอดเสียชีวิตยังสูงเฉลี่ยปีละ 2 หมื่นศพ สูญเสียปีละ2 แสนล้านบาท พ่วง”ท่าซักโมเดล” ชู 3 ด่าน ครอบครัว โรงเรียน ชุมชน ลดอัตราการตายบนถนน
เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2563 เวลา 09.30 น. ที่โรงแรมทวิน โลตัส จังหวัดนครศรีธรรมราช นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย(มท.2) เป็นประธานมอบนโยบายโครงการขับเคลื่อนการดำเนินงานโครงการเสริมสร้างประสิทธิภาพการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนในระดับพื้นที่ให้แก่คณะกรรมการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนจังหวัดในพื้นที่จังหวัดภาคใต้ โดยมี ผู้ว่าราชการจังหวัด รองผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ ภาครัฐ เอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจาก 14 จังหวัดภาคใต้ เข้าร่วมรับฟังนโยบาย
นายนิพนธ์ กล่าวตอนหนึ่งว่า อุบัติเหตุทางถนน ถือเป็นภัยที่คุกคามต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนคนไทยอย่างมากขณะนี้ เมื่อมองย้อนกลับไปปี 2559 ประเทศไทยมีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนน 22,491 ราย เป็นอันดับ 9 ของโลก และจากตัวเลขอุบัติเหตุบนท้องถนนในช่วง 7 เดือนของปี 63 ที่ผ่านมา มีผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุทางถนน 600,000 ราย มียอดผู้เสียชีวิตกว่า 9,000 ราย ตัวเลขนี้ไม่รวมยอดอุบัติเหตุจากผู้ที่ไม่ได้ทำประกันภัยบุคคลที่ 3 อีกด้วย จากความตั้งใจและทุ่มเทในการรณรงค์ความปลอดภัยบนท้องถนนทำให้ตัวเลขผู้เสียชีวิตทางถนนลดลงตามลำดับ คือปี 2560 มีตัวเลขผู้เสียชีวิต 21,000 ราย / ปี2561 ตัวเลขผู้เสียชีวิต 20,000 ราย ปี2562 มีตัวเลขผู้เสียชีวิต 19,900 ราย และในปี 2563 ตัวเลขผู้เสียชีวิต 8 เดือนอยู่ที่ 10,000 ราย ลดลงกว่า10,000 รายเมื่อเทียบกับปี 2559 แต่ก็ยังถือว่าเป็นตัวเลขที่สูง และจากข้อมูลของสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) ได้ประเมินความสูญเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนมีมูลค่าประมาณ 10 ล้านบาทต่อราย ซึ่งเมื่อนำมาประเมินเข้ากับอัตราการตายบนท้องถนนที่มีอัตราการตายเฉลี่ยปีละ 20,000 ราย เท่ากับต้องสูญเสียไปกว่าปีละ 2 แสนล้านบาท โดยมีเป้าหมายเพื่อให้สามารถลดจำนวนผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนให้เหลือ 18 คน ต่อประชากรแสนคน ภายในปี 2563 ตามค่าเป้าหมายที่กำหนดไว้ในแผนแม่บทความปลอดภัยทางถนน พ.ศ. 2561 – 2564
“ จึงถือเป็นโอกาสดีที่ภาคส่วนที่เกี่ยวข้องจะได้ร่วมกันระดมความคิดเห็น ถอดบทเรียน วิเคราะห์สถิติการเกิดอุบัติเหตุทางถนน และปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ในพื้นที่ เพื่อกำหนดตัวชี้วัด มาตรการ และแผนงานในการดำเนินการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนในพื้นที่ เช่น ถอดบทเรียน “ท่าซักโมเดล” ต้นแบบลดอุบัติเหตุ ที่ร่วมกันขับเคลื่อนทั้งภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน รณรงค์ประชาสัมพันธ์ ให้ความรู้แก่ประชาชนและสร้างจิตสำนึกและปรับเปลี่ยนเปลี่ยนพฤติกรรมแทน พร้อมนำมาตรการ 3 ด่านคือ ด่านครอบครัว ด่านโรงเรียน ด่านชุมชน รวมถึงขับเคลื่อนการรายงานข้อมูลสถิติการเกิดอุบัติเหตุทางถนนในพื้นที่อย่างเป็นระบบ เพื่อความรวดเร็ว ถูกต้อง นำไปสู่การโดยใช้กลไกศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนจังหวัดและ ศูนย์ปฏิบัติการความปลอดภัยทางถนนอำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ดำเนินงานป้องกันและแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทางถนนทั้งในระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาวต่อไป รวมถึง การนำเครื่องมืออุปกรณ์ เทคโนโลยี เช่น กล้อง CCTV นำมาช่วยเสริมการทำงานของเจ้าหน้าที่ และถือเป็น กลไกหนึ่งที่ช่วยเสริมการลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้” นายนิพนธ์กล่าว
