ดัชนีความเชื่อมั่นของประชาชนในภาคใต้ ด้านเศรษฐกิจและสังคม เดือนกุมภาพันธ์ 2566
ศูนย์วิจัยนวัตกรรมทางธุรกิจ คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยหาดใหญ่ ได้ดำเนินการจัดทำดัชนีความเชื่อมั่นของประชาชนในภาคใต้ ด้านเศรษฐกิจและสังคม โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อวัดการเปลี่ยนแปลงของ สภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจและสังคมของประชาชนในภาคใต้ เก็บแบบสอบถามกับกลุ่มตัวอย่างจากประชาชนในพื้นที่ 14 จังหวัดภาคใต้ จำนวน 420 ตัวอย่าง
ผลการสำรวจความเชื่อมั่นของประชาชนในภาคใต้ ด้านเศรษฐกิจและสังคม เดือนกุมภาพันธ์ 2566 เปรียบเทียบเดือนมกราคม 2566 และคาดการณ์ในอีก 3 เดือนข้างหน้า
รายการข้อคำถาม | มกราคม 2566 | กุมภาพันธ์ 2566 | คาดการณ์ใน 3 เดือนข้างหน้า | ||||||||
เพิ่มขึ้น/ | คงที่/ | ลดลง/ | เพิ่มขึ้น/ | คงที่/ | ลดลง/ | เพิ่มขึ้น/ | คงที่/ | ลดลง/ | |||
ดีขึ้น | เท่าเดิม | แย่ลง | ดีขึ้น | เท่าเดิม | แย่ลง | ดีขึ้น | เท่าเดิม | แย่ลง | |||
1. ภาวะเศรษฐกิจโดยรวม | 28.30 | 47.40 | 24.30 | 28.70 | 47.60 | 23.70 | 36.10 | 52.00 | 11.90 | ||
2. รายได้จากการทำงาน | 27.40 | 45.20 | 27.40 | 28.20 | 45.10 | 26.70 | 35.80 | 52.10 | 12.10 | ||
3. รายจ่ายเพื่อซื้อสินค้าอุปโภค บริโภคที่จำเป็นในครอบครัว | 28.70 | 46.40 | 24.90 | 28.90 | 46.30 | 24.80 | 37.40 | 45.20 | 17.40 | ||
4. รายจ่ายด้านการท่องเที่ยว เช่น การเดินทาง ที่พัก อาหาร และอื่น ๆ | 27.20 | 45.80 | 27.00 | 27.00 | 45.20 | 27.80 | 34.10 | 55.80 | 10.10 | ||
5. ความสุขในการดำเนินชีวิต | 27.30 | 48.40 | 24.30 | 27.40 | 47.40 | 25.20 | 36.20 | 52.10 | 11.70 | ||
6. ฐานะการเงิน (รายได้หักรายจ่าย) | 26.90 | 47.20 | 25.90 | 26.40 | 48.30 | 25.30 | 30.30 | 48.60 | 21.10 | ||
7. การออมเงิน | 26.10 | 48.90 | 25.00 | 26.20 | 48.80 | 25.00 | 35.40 | 48.30 | 16.30 | ||
8. การรักษามาตรฐานค่าครองชีพ | 28.70 | 47.80 | 23.50 | 28.50 | 48.40 | 23.10 | 37.10 | 48.50 | 14.40 | ||
9. การลดลงของหนี้สิน | 28.50 | 48.60 | 23.90 | 28.70 | 48.90 | 22.40 | 31.40 | 46.50 | 22.10 | ||
10. ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน | 26.80 | 46.90 | 26.30 | 26.70 | 47.40 | 25.90 | 30.90 | 48.50 | 20.60 | ||
11. การแก้ปัญหายาเสพติด | 27.10 | 43.20 | 29.70 | 26.60 | 43.10 | 30.30 | 31.80 | 46.70 | 21.50 | ||
12. การแก้ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ | 27.20 | 42.50 | 30.30 | 27.10 | 42.60 | 30.30 | 32.90 | 45.50 | 21.60 | ||
13. การแก้ปัญหาเศรษฐกิจ | 29.70 | 45.60 | 24.70 | 29.90 | 45.30 | 24.80 | 31.30 | 48.40 | 20.30 | ||
ความเชื่อมั่นของประชาชนในภาคใต้ด้านเศรษฐกิจและสังคม เดือนธันวาคม 2565 มกราคม และกุมภาพันธ์ 2566
รายการข้อคำถาม | 2565 | 2566 | |
ธันวาคม | มกราคม | กุมภาพันธ์ | |
1. ภาวะเศรษฐกิจโดยรวม | 47.80 | 48.10 | 48.70 |
2. รายได้จากการทำงาน | 43.20 | 43.70 | 43.80 |
3. รายจ่ายเพื่อซื้อสินค้าอุปโภค บริโภคที่จำเป็นในครอบครัว | 57.60 | 57.80 | 57.90 |
4. รายจ่ายด้านการท่องเที่ยว เช่น การเดินทาง ที่พัก อาหาร และอื่น ๆ | 49.40 | 49.50 | 49.10 |
5. ความสุขในการดำเนินชีวิต | 49.90 | 50.20 | 50.10 |
6. ฐานะการเงิน (รายได้หักรายจ่าย) | 41.70 | 42.30 | 42.40 |
7. การออมเงิน | 40.50 | 41.00 | 41.00 |
8. การรักษามาตรฐานค่าครองชีพ | 39.70 | 39.80 | 39.90 |
9. การลดลงของหนี้สิน | 47.80 | 47.90 | 48.10 |
10. ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน | 43.10 | 43.40 | 44.20 |
11. การแก้ปัญหายาเสพติด | 40.70 | 40.60 | 40.40 |
12. การแก้ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ | 35.50 | 35.30 | 35.30 |
13. การแก้ปัญหาเศรษฐกิจ | 34.20 | 34.90 | 35.20 |
14. ความเชื่อมั่นของประชาชนโดยรวม | 44.30 | 44.60 | 44.80 |
ผศ.ดร.วิวัฒน์ จันทร์กิ่งทอง ผู้จัดการศูนย์วิจัยนวัตกรรมทางธุรกิจ รายงานผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นของประชาชนในภาคใต้ ด้านเศรษฐกิจและสังคม พบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของประชาชนโดยรวมเดือนกุมภาพันธ์ 2566 (44.80) ปรับตัวเพิ่มขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนมกราคม 2566 (44.60) และเดือนธันวาคม 2565 (44.30) โดยดัชนีที่มีการปรับตัวเพิ่มขึ้น ได้แก่ ภาวะเศรษฐกิจโดยรวม รายได้จากการทำงาน รายจ่ายเพื่อซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นในครอบครัว ฐานะการเงิน (รายได้หักรายจ่าย) การออมเงิน การรักษามาตรฐานค่าครองชีพ การลดลงของหนี้สิน ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน และการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ โดยปัจจัยบวกที่สำคัญ ได้แก่ การฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่มีปัจจัยหนุนสำคัญจากภาคการท่องเที่ยว ซึ่งจะก่อให้เกิดการจ้างงานและรายได้ในประเทศเพิ่มขึ้น รวมถึงการประกาศเปิดประเทศเต็มรูปแบบของประเทศจีนในช่วงต้นปี ส่งผลให้นักท่องเที่ยวจีนกลับมาท่องเที่ยวในไทยเร็วขึ้น และนักท่องเที่ยวชาวจีนที่ออกเดินทางกลุ่มแรกส่วนใหญ่เป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูงและกลุ่มคนรุ่นใหม่ นอกจากนี้นักท่องเที่ยวจากชาติอื่น ๆ ที่เดินทางมาไทยก็มีแนวโน้มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ความต้องการท่องเที่ยวของคนทั่วโลกมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และภาคใต้ของประเทศไทยนับเป็นจุดหมายปลายทางแห่งหนึ่งที่นักท่องเที่ยวต่างชาติให้ความสนใจ ซึ่งการเข้ามาของนักท่องเที่ยวต่างชาติจะช่วยส่งเสริมให้ธุรกิจภาคการท่องเที่ยวและบริการ รวมถึงธุรกิจที่เกี่ยวข้อง อาทิ ธุรกิจโรงแรม สายการบิน บริษัททัวร์ รถเช่า สถานที่และกิจกรรมท่องเที่ยว ร้านค้า ร้านอาหาร และสปา รวมถึงบริการทางการแพทย์ ซึ่งส่งผลให้การจ้างงานในภาคการท่องเที่ยวและภาคบริการฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่อง ทำให้รายได้ของผู้ประกอบการและแรงงานของธุรกิจเหล่านี้ปรับตัวดีขึ้น ตลอดจนการบริโภคของภาคเอกชนก็ขยายตัวเพิ่มขึ้นเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม การเข้ามาท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นอีกนั้น ผู้ประกอบการภาคการท่องเที่ยว บริการ และธุรกิจที่เกี่ยวข้องทั้งหมดควรเตรียมความพร้อม และเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับนักท่องเที่ยวให้เพียงพอต่อจำนวนนักท่องเที่ยว รวมถึงสร้างจุดแข็งให้กับสินค้าและบริการให้มีอัตลักษณ์ที่โดดเด่น เพื่อสร้างความประทับใจให้แก่นักท่องเที่ยว โดยพิจารณา 4 แนวทางที่สำคัญ ดังนี้
1) การเตรียมความพร้อมขยายขีดความสามารถในการให้บริการเพื่อบรรเทาปัญหาภาวะคอขวด ซึ่งเป็นผลจากการปรับโครงสร้างต้นทุนค่าใช้จ่ายในช่วงที่ผู้ประกอบการต้องเผชิญกับวิกฤตโควิด-19 ดังนั้น ผู้ประกอบการต้องเร่งปรับตัวและขยายขีดความสามารถการบริการ เพื่อให้สามารถรองรับปริมาณนักท่องเที่ยวที่เข้ามาใช้บริการได้อย่างเพียงพอ ได้แก่ การเปิดบริการห้องพักโรงแรม การเพิ่มจำนวนรถที่ให้บริการขนส่ง การเพิ่มพนักงานที่ให้บริการในร้านค้าและร้านอาหาร
2) การยกระดับสินค้าและบริการให้มีคุณภาพที่ดีและมีความน่าสนใจ ทั้งมาตรฐานของสินค้าและบริการ รูปแบบที่เป็นเอกลักษณ์ ราคาที่เหมาะสมและคุ้มค่าในการซื้อ และช่องทางการจ่ายเงินที่หลากหลายรวมถึงการกำหนดรูปแบบการรองรับนักท่องเที่ยวในแต่ละประเทศอย่างเหมาะสม เพื่อสร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยว อันจะนำไปสู่การเข้ามาท่องเที่ยวซ้ำและแนะนำบอกต่อในทางบวก
3) การกำหนดแพ็กเกจการให้บริการท่องเที่ยวแบบครบวงจรในราคาที่เหมาะสม เพื่อรองรับแนวโน้มการท่องเที่ยวยุคใหม่ที่เน้นการท่องเที่ยวเพื่อสร้างประสบการณ์ อีกทั้ง การออกแบบแพ็กเกจที่นำเสนอต่อนักท่องเที่ยว ควรมีความยืดหยุ่นเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของนักท่องเที่ยวในแต่ละกลุ่มที่แตกต่างกัน
4) การโปรโมทผ่านสื่อสังคมออนไลน์และอินฟลูเอนเซอร์ชื่อดัง พร้อมทั้งสร้างช่องทางการขายออนไลน์จะช่วยส่งเสริมให้สินค้าและบริการเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวในวงกว้าง สามารถเข้าถึงได้ง่าย และสร้างประสบการณ์ที่ดีให้เกิดกับนักท่องเที่ยวได้มากยิ่งขึ้น
จากการสัมภาษณ์ประชาชนภาคใต้ในหลายสาขาอาชีพ เพื่อรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับผลกระทบที่เกิดขึ้น แนวทางการแก้ไข และความคิดเห็นต่อมาตรการต่าง ๆ ของภาครัฐ รวมถึงข้อเสนอแนะต่าง ๆ มีดังนี้
- การเลือกตั้งรัฐบาลที่กำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ประชาชนได้มีการติดตามการเมืองที่มีความชัดเจนมากขึ้น ทั้งการสังกัดพรรคการเมืองและนโยบายหาเสียงที่สร้างความหวังให้กับประชาชนหากชนะการเลือกตั้งครั้งหน้า ทั้งนี้ ประชาชนต้องการให้พรรคการเมืองที่มีโอกาสได้เข้าไปบริหารประเทศได้ดำเนินโนบายตามที่หาเสียง โดยให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม
- ประชาชนมีความกังวลกับราคาสินค้าและบริการที่มีราคาสูงขึ้น และมีค่าครองชีพเพิ่มขึ้น โดยครัวเรือนส่วนมากยังมองว่าค่าใช้จ่ายโดยรวมสูงขึ้น ค่าสาธารณูปโภค ไฟฟ้า และบริการสาธารณะ รวมถึงสินค้าอุปโภคบริโภคมีการปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ประชาชนต้องการให้ภาครัฐหาวิธีในการช่วยเหลือค่าครองชีพของประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง กลุ่มผู้ใช้แรงงาน กลุ่มเกษตรกร และกลุ่มมนุษย์เงินเดือน เป็นต้น
- รัฐบาลควรมีมาตรการส่งเสริม สนับสนุนการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น โดยการให้เศรษฐกิจขยายตัวไปในทุกพื้นที่ของประเทศ และทุกภาคส่วนธุรกิจ
ผลคาดการณ์ในอีก 3 เดือนข้างหน้า พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่เชื่อว่าภาวะเศรษฐกิจโดยรวม และรายได้จากการทำงานจะเพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ 36.10 และ 35.80 ตามลำดับ ส่วนความเชื่อมั่นต่อรายจ่ายเพื่อซื้อสินค้าอุปโภค บริโภคที่จำเป็นในครัวเรือน และรายจ่ายด้านการท่องเที่ยว ในอีก 3 เดือนข้างหน้า จะเพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ 37.40 และ 34.10 ตามลำดับ ส่วนความเชื่อมั่นด้านความสุขในการดำเนินชีวิต การแก้ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และการแก้ปัญหาเศรษฐกิจในอีก 3 เดือนข้างหน้า จะเพิ่มขึ้น คิดเป็นร้อยละ 36.20 32.90 และ 31.30 ตามลำดับ
สิ่งที่ประชาชนส่วนใหญ่ต้องการให้ภาครัฐดำเนินการโดยเร่งด่วน คือ 1) การช่วยลดค่าครองชีพ อาทิ ลดค่าสาธารณูปโภค และบริการสาธารณะ และ 2) การปราบปรามธุรกิจผิดกฎหมาย อาทิ การพนันออนไลน์ การค้ายาเสพติด ในส่วนของปัญหาที่ประชาชนต้องการได้รับความช่วยเหลือจากภาครัฐ คือ 1) การช่วยเหลือค่าครองชีพ อาทิ โครงการคนละครึ่ง การเพิ่มเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ และ 2) การช่วยเหลือภาระหนี้สินแก่กลุ่มเกษตรกร และผู้ประกอบการหาบเร่แผงลอย นอกจากนี้ ความคาดหวังของประชาชนที่ต้องการให้รัฐบาลชุดใหม่ทำในอนาคต คือ 1) การเพิ่มเบี้ยยังชีพให้แก่ผู้สูงอายุเดือนละ 5,000 บาท 2) การนำพลังงานแสงอาทิตย์เข้ามาใช้ทดแทน เพื่อช่วยลดค่าใช้จ่ายของประชาชน และ 3) การปฏิรูปโครงสร้างตำรวจทั้งระบบ อีกทั้ง การไม่ให้ตำรวจมีอำนาจในการปรับและเรียกรับเงินเข้าหน่วยงานตำรวจโดยตรง