โฆษก ศอ.บต. แถลงข่าว การเดินหน้าขับเคลื่อนช่วยเหลือปชช.เชิงรุกสร้างความเข้าใจในทุกมิติ

โฆษก ศอ.บต. แถลงถึงการเดินหน้าขับเคลื่อนช่วยเหลือปชช. ในห้วงสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19

พร้อมเผยถึงการดำเนินงานประชาสัมพันธ์เชิงรุกสร้างความเข้าใจในทุกมิติ

นายธีรพงศ์  เพชรรัตน์ ผู้ช่วยเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ในฐานะโฆษก ศอ.บต. เปิดเผยถึง การขับเคลื่อนงานของศูนย์ประสานงานการบริหารจัดการและแก้ไขปัญหาผลกระทบโรคโควิด-19 ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศบค.) ศอ.บต. ว่า ศอ.บต. ได้มีการจัดตั้ง ศบค. ศอ.บต. เพื่อช่วยเหลือ พี่น้องประชาชน รวมถึงสนับสนุนภารกิจของจังหวัดอย่างเต็มที่

โดยเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2564 ที่ผ่านมา  พลเรือตรี สมเกียรติ  ผลประยูร เลขาธิการ ศอ.บต. ได้เรียกประชุมคณะทำงาน ศบค. พร้อมหารือ ความคืบหน้าหน้าของสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ขณะนี้สถานการณ์ยังน่าเป็นห่วง ตลอดจนได้หารือถึงแนวทางการบริหารจัดการ เพื่อจัดหาอาชีพให้คนไทยที่เดินทางกลับมาจากมาเลเซีย และคนไทยในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่จะกลับไปทำงานภาคเกษตรในมาเลเซีย ภายหลังการคลี่คลายของโรคระบาด  การบริหารโครงการสร้างความเข้มแข็งให้กับหมู่บ้าน ชุมชนและตำบล ภายใต้โครงการตำบล มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน เพื่อหนุนเสริมการแก้ปัญหาและผลกระทบจากโรคโควิด-19 การบริหารจัดการเครือข่ายบัณฑิตอาสาเพื่อหนุนเสริมการทำงานของ ศบค. ศอ.บต. ในการสร้างความเข้าใจ การรณรงค์การรับวัคซีน  และการประชาสัมพันธ์เชิงรุก โดยได้จัดทำสื่อประชาสัมพันธ์เป็นภาษามลายู สร้างความเข้าใจกับพี่น้องประชาชนที่ไม่สามารถสื่อสารภาษาไทยได้ อีกทั้งยังได้มีการติดตามการตรวจเยี่ยมพื้นที่ ที่ถูกสั่งปิดพื้นที่ ศูนย์กักกันประจำพื้นที่ โรงพยาบาลสนามและ ศบค.ประจำจังหวัด รวมถึงการมอบเครื่องบริโภคให้แก่ชาวบ้านที่ถูกปิดหมู่บ้าน  โดย เลขาธิการ ศอ.บต. ได้เน้นย้ำให้ทุกส่วน เร่งขับเคลื่อนการดำเนินงาน ช่วยเหลือพี่น้องประชาชน เติมเต็มสนับสนุนการทำงานของจังหวัดและส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ทั้งผู้ที่ได้รับความเดือดร้อน เนื่องจากมาตรการต่างๆ ของทางราชการ เช่น การประกอบอาชีพ ปัญหาว่างงาน การดูแลกลุ่มคนเปราะบาง และกลุ่มผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

ขณะที่ด้านคณะผู้บริหารศอ.บต. ยังคงเดินหน้า นำเครื่องบริโภคช่วยเหลือประชาชนที่ถูกปิดหมู่บ้าน ภายหลังการตรวจพบการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีพื้นที่ที่ถูกกำหนดให้เป็นพื้นที่เสี่ยงในการควบคุมโรคโควิด-19 จำนวน 29 หมู่บ้าน ได้แก่ จังหวัดยะลา 15 หมู่บ้าน จังหวัดนราธิวาส 13 หมู่บ้าน และจังหวัดปัตตานี 1 หมู่บ้าน โดยล่าสุดคณะผู้บริหาร ศอ.บต. ได้เดินทางลงพื้นที่ให้กำลังใจพร้อมมอบเครื่องบริโภคให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ ตำบลเกาะสะท้อน อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส                   

ที่เทศบาลเมืองนราธิวาส และบ้านบางลาง ตำบลบาเจาะ อำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา รวมทั้งมอบสิ่งของให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่ ณ โรงพยาบาลศูนย์ยะลาอีกด้วย

โฆษก ศอ.บต. กล่าวอีกว่า ขณะนี้ศอ.บต. ได้มีการดำเนินการผลิตสื่อประชาสัมพันธ์ทั้งภาคภาษาไทยและภาษามลายู เพื่อเร่งสร้างความเข้าใจให้กับพี่น้องประชาชนทั้งชาวไทยและมุสลิม ให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมร่วมกันป้องกันโควิด-19 ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการผลิตคลิปวิดีโอสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับวัคซีน การสร้างความเชื่อมั่นถึงการฉีดวัคซีนที่ไม่ผิดหลักศาสนาอิสลาม การรับทราบขั้นตอนการจองและเตรียมตัวรับวัคซีน การสร้างความเข้าใจถึงการฉีดวัคซีนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ ช่วยทั้งตนเอง ครอบครัวและสังคมได้ และให้ความรู้ในเรื่องอื่นๆ โดยได้เชิญผู้เชี่ยวชาญมาให้ความรู้ความเข้าใจในเรื่องดังกล่าว และเผยแพร่ไปยังช่องทางต่างๆ รวมถึงยังให้บัณฑิตอาสาพัฒนามาตุภูมิที่อยู่ในพื้นที่กว่า 2,000 คน นำไปสื่อสร้างความเข้าใจแบบถึงตัว และผ่านเสียงตามสายในที่สถานที่สำคัญของชุมชนอีกด้วย โดยเลขาธิการ ศอ.บต. เชื่อมั่นว่าการสื่อสารที่ทางศอ.บต. ได้ดำเนินการนั้น จะสามารถสร้างการรับรู้ สร้างความเข้าใจ ก่อเกิดพฤติกรรมและการปฏิบัติที่ถูกต้องต่อการแก้ปัญหาโรคโควิด-19 ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น 

นอกจากนี้ โฆษก ศอ.บต. ได้เปิดเผยเพิ่มเติมอีกว่า ศอ.บต. ได้รับการประสานงานจากผู้แทน บริษัท ไทยฟู้ดส์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ให้ประสานงานกับพี่น้องประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่สนใจและประสงค์จะเข้าทำงานในบริษัทฯ (โรงงานชำแหละชิ้นส่วนไก่) ซึ่งตั้งอยู่ ณ เลขที่ 46/19 หมู่ที่ 4  ตำบลอุโลกสี่หมื่น อำเภอท่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรี จำนวน 1,500 คน โดยได้รับค่าตอบแทนรายวัน เฉลี่ยประมาณ 500 – 700 บาท พร้อมด้วยสวัสดิการ เบี้ยขยัน เงินพิเศษ ค่าเป้าหมาย และโบนัสตามผลประกอบการ รวมทั้ง สามารถเบิกเงินล่วงหน้าได้ตั้งแต่วันแรกที่เข้าทำงาน (รายละเอียดตามเอกสารประกาศรับสมัครงาน) ผู้สนใจที่มีคุณสมบัติตามที่กำหนด สามารถให้ข้อมูลการสมัครงานกับบัณฑิตอาสาฯ ในหมู่บ้าน เพื่อให้กรอกรายละเอียดประวัติในใบสมัคร และรวบรวมส่งมายัง ศอ.บต. ภายในวันที่ 5 มิถุนายน 2564 และจะมีการดำเนินการตรวจสอบคุณสมบัติ คัดเลือก ซึ่งผู้ผ่านการคัดเลือกนั้น จะเข้ารับการชี้แจงรายละเอียดการทำงาน    จากบริษัทฯโดยละเอียด รวมถึงชี้แจงจากหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง อาทิ กฎหมายแรงงาน กฎหมายสวัสดิการ รายละเอียดที่สำคัญของจังหวัดกาญจนบุรี เป็นต้น ทั้งนี้เพื่อเป็นประโยชน์ต่อการทำงานของผู้ผ่านการสมัครต่อไป