
พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เดินทางมาตรวจราชการและเยี่ยมให้กำลังใจประชาชนที่ประสบอุทกภัยที่ อ.ระโนด และประชาชนที่อาศัยอยู่ริมคาบสมุทรสทิงพระจ.สงขลา พร้อมเผยรัฐบาลสนับสนุนงบประมาณให้จังหวัดสงขลาในการป้องกันปัญหาอุทกภัยระยะยาว
วันนี้ (15 ธ.ค. 59) เวลา 10.40 น. พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางมาถึงที่วัดวารีปาโมกข์ อ.ระโนด จ.สงขลา พร้อมด้วย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งได้ทักทายพูดคุยกับพี่น้องประชาชนที่มาให้การต้อนรับกว่าสองพันคน นอกจากนี้ส่วนราชการต่างๆ ได้จัดแสดงผลงานการแก้ไขปัญหาเรื่องอุทกภัย โดยนายทรงพล สวาสดิ์ธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ได้กล่าวรายงาน สถานการณ์อุทกภัยของจังหวัดสงขลา การดำเนินการช่วยเหลือพี่น้องประชาชน และการดำเนินการแก้ไขปัญหาเรื่องน้ำในคาบสมุทรสทิงพระอย่างยั่งยืน ซึ่งจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้ทุกฝ่ายเห็นว่า มีความจำเป็นที่จะต้องจัดทำโครงการก่อสร้างประตูระบายน้ำบ้านท่าเข็น ต.คลองแดน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำในช่วงฤดูน้ำหลากและกักเก็บน้ำในช่วงฤดูแล้งเพิ่มขึ้น โดยจังหวัดได้ขอรับการสนับสนุนงบประมาณ จำนวน 150 ล้านบาท จากโครงการตามแนวทางสร้างความเข้มแข็งและยั่งยืนให้กับเศรษฐกิจภายในประเทศ ซึ่งเป็นโครงการที่รัฐบาลนี้ได้ริเริ่มขึ้นเป็นครั้งแรก เพื่อให้การบรรเทาอุทกภัยบนคาบสมุทรสทิงพระ จ.สงขลา สามารถเป็นไปอย่างยั่งยืน จากผลการศึกษาความเหมาะสมการแก้ไขปัญหาอุทกภัยคาบสมุทรสทิงพระ จ.สงขลา มี 4 แนวทาง คือ การก่อสร้างคันป้องกันน้ำท่วมและอาคารประกอบ/การปรับปรุงประสิทธิภาพคลองระบายน้ำในพื้นที่คาบสมุทรสทิงพระ/การผันน้ำจากทะเลสาบสงขลาออกสู่อ่าวไทย และการก่อสร้างท่อระบายน้ำกั้นน้ำจากทะเลสาบสงขลา ที่ ต.ป่าขาด อ.สิงหนคร ปิดปากคลอง 4 คลอง ซึ่งโครงการที่ จ.สงขลา เสนอทั้งหมด นายกรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบในการอนุมัติงบประมาณ เพื่อแก้ไขปัญหาทั้งในระยะสั้นและระยะยาว นายกรัฐมนตรีได้แจ้งกับประชาชนว่าจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พระบรมวงศ์ศานุวงศ์ทุกพระองค์มีความห่วงใยประชาชนเป็นอย่างมาก ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีได้ลงเรือไปเยี่ยมราษฎรที่อาศัยตามริมทะเลสาบสงขลา เพื่อตรวจสภาพพื้นที่ริมทะเลสาบสงขลา ภายหลังสถานการณ์น้ำหนุนลดลงสู่ภาวะปกติ พร้อมกับเจ้าหน้าที่คณะติดตามนายกรัฐมนตรี ได้นำถุงยังชีพจำนวน 50 ถุง มอบแก่ครัวเรือนริมทะเลสาบที่ประสบอุทกภัยเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนภายหลังประสบอุทกภัยด้วย
จากนั้น เวลา 11.30 น. พลเอกประยุทธ์ จันทร์ โอชา นายกรัฐมนตรี ลงเรือตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจราษฎรที่อาศัยอยู่ริมคาบสมุทรสทิงพระ จ.สงขลา พร้อมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้นำถุงยังชีพ 50 ชุด มอบแก่ครัวเรือนที่ประสบภัย ซึ่งนายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญและเห็นถึงปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน รัฐบาลจึงจัดงบประมาณ ในการแก้ไขปัญหาน้ำหลาก น้ำแล้ง และน้ำเค็ม ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของชาว จ.สงขลา ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่คาบสมุทรสทิงพระ
นายกรัฐมนตรี ได้ให้สัมภาษณ์ว่า ตามที่จังหวัดสงขลาเสนอของบประมาณเร่งด่วน 2พันล้านบาทในการป้องกันปัญหาอุทกภัยระยะยาว รัฐบาลจะรับไปพิจารณาดำเนินการแก่พื้นที่ต่อไป เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้แก้ไขปัญหาการบริหารจัดการน้ำให้แก่ราษฎรที่อาศัยในบริเวณคาบสมุทรสทิงพระ โดยโครงการจะก่อสร้างพนังกั้นน้ำ ระหว่างทะเลสาบสงขลาตอนบน และ ทะเลสาบสงขลาตอนล่าง เพื่อป้องกันน้ำทะเลหนุนเอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือนของประชาชน รวมทั้ง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ดำเนินการขุดลอกคูคลอง และให้กรมชลประทาน ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ และวางแนวทางบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ช่วงหน้าฝนและหน้าแล้งได้อย่างยั่งยืน ตามยุทธศาสตร์พระราชทาน ภูมิคุ้มกัน เพื่อเป็นแนวทางป้องกันและบรรเทาความเดือดร้อน
ด้านพลโท สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและรักษาราชการอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ กล่าวว่า ในส่วนของรัฐบาลได้รับข้อร้องขอจากราษฎรในพื้นที่ให้ก่อสร้างประตูระบายน้ำบริเวณทะเลสาบสงขลาตอนบน เพื่อแก้ปัญหาน้ำเค็มเอ่อล้นเข้ามาในลำคลองน้ำจืด ซึ่งเป็นแหล่งน้ำที่ใช้ในการเกษตร โดยรัฐบาลจะเร่งนำปัญหาดังกล่าว เข้าสู่ที่ประชุม นอกจากนี้ยังเน้นย้ำให้ประชาชน ติดตามข่าวสารจากทางภาครัฐอย่างใกล้ชิด เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือกับสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา…