ดัชนีความเชื่อมั่นของประชาชนในภาคใต้ ด้านเศรษฐกิจและสังคม เดือนสิงหาคม 2566
ศูนย์วิจัยนวัตกรรมทางธุรกิจ คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยหาดใหญ่ ได้ดำเนินการจัดทำดัชนีความเชื่อมั่นของประชาชนในภาคใต้ ด้านเศรษฐกิจและสังคม โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อวัดการเปลี่ยนแปลงของ สภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจและสังคมของประชาชนในภาคใต้ เก็บแบบสอบถามกับกลุ่มตัวอย่างจากประชาชนในพื้นที่ 14 จังหวัดภาคใต้ จำนวน 420 ตัวอย่าง
ผลการสำรวจความเชื่อมั่นของประชาชนในภาคใต้ ด้านเศรษฐกิจและสังคม เดือนสิงหาคม 2566 เปรียบเทียบเดือนกรกฎาคม 2566 และคาดการณ์ในอีก 3 เดือนข้างหน้า
รายการข้อคำถาม | กรกฎาคม 2566 | สิงหาคม 2566 | คาดการณ์ใน 3 เดือนข้างหน้า | ||||||||
เพิ่มขึ้น/ | คงที่/ | ลดลง/ | เพิ่มขึ้น/ | คงที่/ | ลดลง/ | เพิ่มขึ้น/ | คงที่/ | ลดลง/ | |||
ดีขึ้น | เท่าเดิม | แย่ลง | ดีขึ้น | เท่าเดิม | แย่ลง | ดีขึ้น | เท่าเดิม | แย่ลง | |||
1. ภาวะเศรษฐกิจโดยรวม | 28.60 | 47.30 | 24.10 | 28.40 | 47.10 | 24.50 | 37.40 | 45.20 | 17.40 | ||
2. รายได้จากการทำงาน | 28.10 | 47.60 | 24.30 | 27.80 | 47.80 | 24.40 | 34.10 | 55.80 | 10.10 | ||
3. รายจ่ายเพื่อซื้อสินค้าอุปโภค บริโภคที่จำเป็นในครอบครัว | 29.70 | 48.20 | 22.10 | 29.80 | 48.40 | 21.80 | 32.10 | 50.70 | 17.20 | ||
4. รายจ่ายด้านการท่องเที่ยว เช่น การเดินทาง ที่พัก อาหาร และอื่น ๆ | 28.30 | 44.20 | 27.50 | 28.20 | 44.50 | 27.30 | 30.10 | 54.60 | 15.30 | ||
5. ความสุขในการดำเนินชีวิต | 27.10 | 48.40 | 24.20 | 27.00 | 47.20 | 25.80 | 33.80 | 46.50 | 19.70 | ||
6. ฐานะการเงิน (รายได้หักรายจ่าย) | 25.40 | 47.40 | 27.20 | 25.20 | 47.10 | 27.70 | 34.30 | 48.50 | 17.20 | ||
7. การออมเงิน | 26.20 | 47.30 | 26.50 | 26.00 | 46.60 | 27.40 | 34.20 | 57.20 | 8.60 | ||
8. การรักษามาตรฐานค่าครองชีพ | 27.90 | 46.10 | 26.00 | 27.70 | 46.20 | 26.10 | 30.20 | 46.20 | 23.60 | ||
9. การลดลงของหนี้สิน | 28.10 | 47.00 | 24.90 | 27.90 | 47.10 | 25.00 | 34.50 | 49.30 | 16.20 | ||
10. ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน | 26.80 | 47.50 | 25.70 | 26.50 | 47.20 | 26.30 | 36.20 | 52.10 | 11.70 | ||
11. การแก้ปัญหายาเสพติด | 26.10 | 44.60 | 29.30 | 25.70 | 45.80 | 28.50 | 30.30 | 48.60 | 21.10 | ||
12. การแก้ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ | 27.20 | 45.90 | 26.90 | 27.10 | 45.30 | 27.60 | 37.10 | 48.50 | 14.40 | ||
13. การแก้ปัญหาเศรษฐกิจ | 28.40 | 48.10 | 23.50 | 28.20 | 47.70 | 24.10 | 31.40 | 46.50 | 22.10 | ||
ความเชื่อมั่นของประชาชนในภาคใต้ด้านเศรษฐกิจและสังคม เดือนมิถุนายน กรกฎาคม และสิงหาคม 2566
รายการข้อคำถาม | 2566 | ||
มิถุนายน | กรกฎาคม | สิงหาคม | |
1. ภาวะเศรษฐกิจโดยรวม | 49.10 | 48.60 | 48.20 |
2. รายได้จากการทำงาน | 43.90 | 43.50 | 43.30 |
3. รายจ่ายเพื่อซื้อสินค้าอุปโภค บริโภคที่จำเป็นในครอบครัว | 58.50 | 58.80 | 58.90 |
4. รายจ่ายด้านการท่องเที่ยว เช่น การเดินทาง ที่พัก อาหาร และอื่น ๆ | 49.20 | 48.40 | 48.10 |
5. ความสุขในการดำเนินชีวิต | 50.30 | 50.10 | 49.90 |
6. ฐานะการเงิน (รายได้หักรายจ่าย) | 42.80 | 42.70 | 42.50 |
7. การออมเงิน | 41.10 | 41.00 | 40.80 |
8. การรักษามาตรฐานค่าครองชีพ | 39.30 | 39.20 | 39.10 |
9. การลดลงของหนี้สิน | 48.00 | 47.80 | 47.40 |
10. ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน | 44.10 | 44.10 | 44.00 |
11. การแก้ปัญหายาเสพติด | 40.00 | 39.80 | 39.70 |
12. การแก้ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ | 35.30 | 35.70 | 35.20 |
13. การแก้ปัญหาเศรษฐกิจ | 36.20 | 36.10 | 36.00 |
14. ความเชื่อมั่นของประชาชนโดยรวม | 45.10 | 44.70 | 44.10 |
ผศ.ดร.วิวัฒน์ จันทร์กิ่งทอง ผู้จัดการศูนย์วิจัยนวัตกรรมทางธุรกิจ รายงานผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นของประชาชนในภาคใต้ ด้านเศรษฐกิจและสังคม พบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของประชาชนโดยรวมเดือนสิงหาคม (44.10) ปรับตัวลดลงเมื่อเปรียบเทียบกับเดือนกรกฎาคม (44.70) และเดือนมิถุนายน (45.10) โดยดัชนีที่มีการปรับตัวลดลง ได้แก่ ภาวะเศรษฐกิจโดยรวม รายได้จากการทำงาน รายจ่ายด้านการท่องเที่ยว ความสุขในการดำเนินชีวิต ฐานะการเงิน (รายได้หักรายจ่าย) การรักษามาตรฐานค่าครองชีพ การลดลงของหนี้สิน ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน การแก้ปัญหายาเสพติด การแก้ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ โดยปัจจัยลบที่สำคัญ ได้แก่ ความชัดเจนของนโยบายในการดำเนินงานของรัฐบาลใหม่ที่ยังไม่มีความแน่นอน เนื่องจากเป็นรัฐบาลผสมแบบข้ามขั้ว ที่ยังคงมีรูปแบบในการทำงานแบบเก่า เมื่อได้จัดสรรโควตารัฐมนตรีให้แต่ละพรรคแล้ว ต่างคนก็ต่างทำงานตามนโยบายและแนวทางพรรคตนเอง โดยไม่ได้เป็นรัฐบาลที่มีการบูรณาการในการทำงานร่วมกัน ซึ่งอาจทำให้การขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมไม่เป็นไปในทิศทางเดียวกัน อีกทั้งยังส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในการลงทุนของภาคธุรกิจ และความเชื่อมั่นของประชาชนต่อนโยบายรัฐบาล ว่าจะทำได้ตามที่ได้หาเสียงไว้หรือไม่
นอกจากนี้ จากการสำรวจ พบว่า แนวโน้มหนี้ครัวเรือนสะสมสูงเกิน 80% ของ GDP ซึ่งส่งผลต่อกำลังซื้อที่ลดลงของประชาชนอย่างชัดเจน อีกทั้ง ประชาชนจำนวนมากที่เป็นหนี้ และยังต้องการกู้เงินเพิ่ม เพื่อนำเงินไปชำระดอกเบี้ยและเงินต้นของหนี้เดิม โดยพฤติกรรมดังกล่าวมีความแตกต่างจากในอดีตที่ประชาชนส่วนใหญ่กู้เงินเพื่อนำมาชำระค่าอาหารและสิ่งของจำเป็นในชีวิตประจำวัน ซึ่งจากพฤติกรรมของลูกหนี้ที่เปลี่ยนไป สะท้อนถึงปัญหาของหนี้ครัวเรือนที่รุนแรงมากขึ้น หากไม่ได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน ย่อมส่งผลกระทบเป็นอย่างมากต่อเศรษฐกิจของประเทศ
จากการสัมภาษณ์ประชาชนภาคใต้ในหลายสาขาอาชีพ เพื่อรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับความคาดหวังและความต้องการของประชาชน มีดังนี้
- ประชาชนต้องการให้รัฐบาลใหม่รีบเข้ามาแก้ไขปัญหาค่าครองชีพที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเริ่มจากการปรับลดค่าไฟฟ้า และค่าพลังงานแบบทันทีที่เข้ามาบริหารประเทศ
- ครัวเรือนจำนวนมากมีหนี้สิน ซึ่งเกิดในช่วงโควิด-19 ถึงแม้ว่าสถานการณ์โควิด-19 ได้คลี่คลายแล้ว แต่หนี้ครัวเรือนยังมีแนวโน้มที่จะเพิ่มมากขึ้น ทั้งจากแหล่งเงินกู้ในระบบและนอกระบบ ซึ่งประชาชนคาดหวังให้รัฐบาลใหม่กำหนดนโยบายช่วยเหลือหนี้ครัวเรือนอย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะการแก้ปัญหาหนี้นอกระบบที่ดอกเบี้ยสูงเกินกว่ากฎหมายกำหนด
- ประชาชนมองว่า นโยบายกระเป๋าเงินดิจิทัล 10,000 บาท ซึ่งคาดว่าจะเริ่มใช้ได้ในช่วงเดือนเมษายนของปีหน้านั้น ประชาชนต้องการให้รัฐบาลใหม่ออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ด้วย เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายของประชาชนและพลิกฟื้นเศรษฐกิจของประเทศ
- ประชาชนส่วนหนึ่งมีความกังวลต่อการทำงานร่วมกันของรัฐบาลผสมข้ามขั้วที่มีนโยบายแตกต่างกัน โดยประชาชนต้องการให้รัฐบาลจัดทำ MOU ร่วมกันในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ โดยมุ่งเน้นประโยชน์ของประชาชนเป็นสำคัญ
ผลคาดการณ์ในอีก 3 เดือนข้างหน้า พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่เชื่อว่าภาวะเศรษฐกิจโดยรวม และรายได้จากการทำงานเพิ่มขึ้น คิดเป็นร้อยละ 37.40 และ 34.10 ตามลำดับ ส่วนความเชื่อมั่นต่อรายจ่ายเพื่อซื้อสินค้าอุปโภค บริโภคที่จำเป็นในครัวเรือน และรายจ่ายด้านการท่องเที่ยว ในอีก 3 เดือนข้างหน้าเพิ่มขึ้น คิดเป็น ร้อยละ 32.10 และ 30.10 ตามลำดับ ในขณะที่ความเชื่อมั่นด้านความสุขในการดำเนินชีวิต การแก้ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และการแก้ปัญหาเศรษฐกิจในอีก 3 เดือนข้างหน้าเพิ่มขึ้น คิดเป็นร้อยละ 33.80
37.10 และ 31.40 ตามลำดับ
สิ่งที่ประชาชนส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบ และต้องการให้รัฐบาลใหม่ดำเนินการอย่างเร่งด่วน คือ 1) การช่วยลดค่าไฟฟ้าและพลังงาน 2) การกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งระบบ 3) การช่วยเหลือราคาพืชผลทางการเกษตร 4) การเพิ่มบำนาญผู้สูงอายุ และ 5) การเพิ่มสวัสดิการให้กับประชาชน