ดัชนีความเชื่อมั่นของประชาชนในภาคใต้ ด้านเศรษฐกิจและสังคม เดือนมิถุนายน 2566
ศูนย์วิจัยนวัตกรรมทางธุรกิจ คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยหาดใหญ่ ได้ดำเนินการจัดทำดัชนีความเชื่อมั่นของประชาชนในภาคใต้ ด้านเศรษฐกิจและสังคม โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อวัดการเปลี่ยนแปลงของ สภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจและสังคมของประชาชนในภาคใต้ เก็บแบบสอบถามกับกลุ่มตัวอย่างจากประชาชนในพื้นที่ 14 จังหวัดภาคใต้ จำนวน 420 ตัวอย่าง
ผลการสำรวจความเชื่อมั่นของประชาชนในภาคใต้ ด้านเศรษฐกิจและสังคม เดือนมิถุนายน 2566 เปรียบเทียบเดือนพฤษภาคม 2566 และคาดการณ์ในอีก 3 เดือนข้างหน้า
รายการข้อคำถาม | พฤษภาคม 2566 | มิถุนายน 2566 | คาดการณ์ใน 3 เดือนข้างหน้า | ||||||||
เพิ่มขึ้น/ | คงที่/ | ลดลง/ | เพิ่มขึ้น/ | คงที่/ | ลดลง/ | เพิ่มขึ้น/ | คงที่/ | ลดลง/ | |||
ดีขึ้น | เท่าเดิม | แย่ลง | ดีขึ้น | เท่าเดิม | แย่ลง | ดีขึ้น | เท่าเดิม | แย่ลง | |||
1. ภาวะเศรษฐกิจโดยรวม | 29.50 | 48.20 | 22.30 | 29.10 | 47.60 | 23.30 | 36.50 | 50.40 | 13.10 | ||
2. รายได้จากการทำงาน | 28.90 | 48.10 | 23.00 | 28.40 | 48.10 | 23.50 | 34.10 | 55.80 | 10.10 | ||
3. รายจ่ายเพื่อซื้อสินค้าอุปโภค บริโภคที่จำเป็นในครอบครัว | 29.60 | 48.80 | 21.60 | 29.20 | 48.00 | 22.80 | 35.40 | 48.30 | 16.30 | ||
4. รายจ่ายด้านการท่องเที่ยว เช่น การเดินทาง ที่พัก อาหาร และอื่น ๆ | 28.50 | 44.40 | 27.10 | 28.20 | 45.00 | 26.80 | 37.10 | 48.50 | 14.40 | ||
5. ความสุขในการดำเนินชีวิต | 27.80 | 48.80 | 23.40 | 27.50 | 47.40 | 25.10 | 32.80 | 35.70 | 31.50 | ||
6. ฐานะการเงิน (รายได้หักรายจ่าย) | 26.60 | 48.20 | 25.20 | 25.70 | 47.90 | 26.40 | 35.60 | 45.80 | 18.60 | ||
7. การออมเงิน | 26.80 | 48.50 | 24.70 | 26.10 | 48.60 | 25.30 | 30.10 | 54.60 | 15.30 | ||
8. การรักษามาตรฐานค่าครองชีพ | 28.60 | 46.60 | 24.80 | 28.10 | 46.40 | 25.50 | 34.20 | 57.20 | 8.60 | ||
9. การลดลงของหนี้สิน | 28.40 | 48.20 | 23.40 | 28.20 | 47.50 | 24.30 | 35.80 | 52.10 | 12.10 | ||
10. ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน | 27.30 | 47.20 | 25.50 | 27.20 | 48.80 | 23.80 | 37.40 | 45.20 | 17.40 | ||
11. การแก้ปัญหายาเสพติด | 26.50 | 43.20 | 30.30 | 26.20 | 45.60 | 28.20 | 30.30 | 48.60 | 21.10 | ||
12. การแก้ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ | 27.10 | 45.30 | 27.60 | 27.40 | 45.20 | 27.40 | 32.10 | 50.70 | 17.20 | ||
13. การแก้ปัญหาเศรษฐกิจ | 29.70 | 48.90 | 21.40 | 28.60 | 48.20 | 23.20 | 36.10 | 52.00 | 11.90 | ||
ความเชื่อมั่นของประชาชนในภาคใต้ด้านเศรษฐกิจและสังคม เดือนเมษายน พฤษภาคม และมิถุนายน 2566
รายการข้อคำถาม | 2566 | ||
เมษายน | พฤษภาคม | มิถุนายน | |
1. ภาวะเศรษฐกิจโดยรวม | 49.30 | 49.70 | 49.10 |
2. รายได้จากการทำงาน | 44.20 | 45.60 | 43.90 |
3. รายจ่ายเพื่อซื้อสินค้าอุปโภค บริโภคที่จำเป็นในครอบครัว | 58.60 | 58.70 | 58.50 |
4. รายจ่ายด้านการท่องเที่ยว เช่น การเดินทาง ที่พัก อาหาร และอื่น ๆ | 49.80 | 49.70 | 49.20 |
5. ความสุขในการดำเนินชีวิต | 50.70 | 50.90 | 50.30 |
6. ฐานะการเงิน (รายได้หักรายจ่าย) | 42.90 | 43.20 | 42.80 |
7. การออมเงิน | 41.30 | 41.40 | 41.10 |
8. การรักษามาตรฐานค่าครองชีพ | 39.70 | 39.50 | 39.30 |
9. การลดลงของหนี้สิน | 48.20 | 48.10 | 48.00 |
10. ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน | 44.40 | 44.50 | 44.10 |
11. การแก้ปัญหายาเสพติด | 40.10 | 40.30 | 40.00 |
12. การแก้ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ | 35.20 | 35.10 | 35.30 |
13. การแก้ปัญหาเศรษฐกิจ | 36.30 | 36.50 | 36.20 |
14. ความเชื่อมั่นของประชาชนโดยรวม | 45.80 | 46.40 | 45.10 |
ผศ.ดร.วิวัฒน์ จันทร์กิ่งทอง ผู้จัดการศูนย์วิจัยนวัตกรรมทางธุรกิจ รายงานผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นของประชาชนในภาคใต้ ด้านเศรษฐกิจและสังคม พบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของประชาชนโดยรวมเดือนมิถุนายน (45.10) ปรับตัวลดลงเมื่อเปรียบเทียบกับเดือนพฤษภาคม (46.40) และเดือนเมษายน 2566 (45.80) โดยดัชนีที่มีการปรับตัวลดลง ได้แก่ ภาวะเศรษฐกิจโดยรวม รายได้จากการทำงาน รายจ่ายเพื่อซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นในครอบครัว รายจ่ายด้านการท่องเที่ยว ความสุขในการดำเนินชีวิต ฐานะการเงิน (รายได้หักรายจ่าย) การออมเงิน การรักษามาตรฐานค่าครองชีพ การลดลงของหนี้สิน ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน การแก้ปัญหายาเสพติด และการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ โดยปัจจัยลบที่สำคัญ ได้แก่ การชะลอตัวของเศรษฐกิจโดยภาพรวมช่วงกลางปีที่ การบริโภคด้านต่าง ๆ เผชิญกับปัจจัยเสี่ยง ประชาชนมีความกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับรายได้จากยอดขายหรือผลประกอบการที่ลดลง เนื่องจากค่าครองชีพที่อยู่ในระดับสูงได้กดดันกำลังซื้อของผู้บริโภคให้ลดลง และสะท้อนว่าแม้เศรษฐกิจจะอยู่ในช่วงของการฟื้นตัว แต่เป็นลักษณะการฟื้นตัวแบบไม่ทั่วถึง ประชาชนอีกจำนวนไม่น้อยที่ยังได้รับความเดือดร้อนและต้องการให้รัฐบาลใหม่เข้ามาช่วยแก้ปัญหาอย่างเร่งด่วน
ทั้งนี้ ประชาชนมีความกังวลถึงการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ที่ยังมีความไม่แน่นอน และอาจล่าช้าได้ ถึงแม้ว่าการประกาศรับรองผลการเลือกตั้งทำได้เร็วกว่าที่คาดไว้ โดยจะมีการประชุมสภาผู้แทนราษฎรครั้งแรก ในวันอังคารที่ 4 กรกฎาคม 2566 นี้ ซึ่งในช่วง 3 เดือนหลังจากนี้ หากยังไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลใหม่ได้ การขับเคลื่อนเศรษฐกิจทุกอย่างแทบจะหยุดนิ่ง ส่งผลให้การลงทุนและการบริโภคจะชะลอตัวไปถึงไตรมาส 4 ทั้งนี้ หากการตั้งรัฐบาลใหม่ถูกลากยาวออกไปอีก ย่อมส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในประเทศและปากท้องของประชาชนเป็นอย่างมาก ในทางกลับกันหากการจัดตั้งรัฐบาลเป็นไปอย่างราบรื่นและรวดเร็ว ย่อมส่งผลดีต่อเศรษฐกิจของประเทศและความเชื่อมั่นในภาพรวม ซึ่งหากรัฐบาลใหม่สามารถดำเนินนโยบายตามที่ได้เคยหาเสียงไว้ โดยเฉพาะนโยบายที่เกี่ยวกับการกระตุ้นเศรษฐกิจ ย่อมทำให้นักธุรกิจและนักลงทุนเกิดความเชื่อมั่นที่จะกล้าตัดสินใจลงทุนในประเทศไทย อันจะช่วยในการสร้างงานและสร้างรายได้แก่ประชาชนได้มากขึ้น
จากการสัมภาษณ์ประชาชนภาคใต้ในหลายสาขาอาชีพ เพื่อรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับความคาดหวังและความต้องการของประชาชนต่อนโยบายขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคม มีดังนี้
- ประชาชนต้องการเห็นความชัดเจนของการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ และต้องการให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวม และช่วยกันผลักดันให้การจัดตั้งรัฐบาลใหม่เป็นไปอย่างราบรื่นและรวดเร็ว เพื่อให้รัฐบาลใหม่ได้เร่งดำเนินงานขับเคลื่อนโยบายเศรษฐกิจและสังคมของประเทศตามที่ได้หาเสียงไว้
- จากค่าครองชีพที่เพิ่มขึ้นและสภาวะหนี้สินครัวเรือนสะสมที่สูงขึ้น ประชาชนต้องการให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาเรื่องค่าแรงหรือค่าครองชีพ เช่น การมีมาตรการในการดูแลช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย เพิ่มสวัสดิการให้กับผู้มีรายได้น้อยเพื่อลดค่าใช้จ่าย และการช่วยเพิ่มเบี้ยยังชีพให้แก่ผู้สูงอายุ
- ประชาชนต้องการให้รัฐบาลใหม่ช่วยเหลือเกษตรกร เนื่องจากราคาสินค้าเกษตรลดลงอย่างต่อเนื่อง อันเนื่องจากความต้องการของประเทศคู่ค้าที่ลดลง
ผลคาดการณ์ในอีก 3 เดือนข้างหน้า พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่เชื่อว่าภาวะเศรษฐกิจโดยรวม และรายได้จากการทำงานจะเพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ 36.50 และ 34.10 ตามลำดับ ส่วนความเชื่อมั่นต่อรายจ่ายเพื่อซื้อสินค้าอุปโภค บริโภคที่จำเป็นในครัวเรือน และรายจ่ายด้านการท่องเที่ยว ในอีก 3 เดือนข้างหน้า จะเพิ่มขึ้นคิดเป็น ร้อยละ 35.40 และ 37.10 ตามลำดับ ส่วนความเชื่อมั่นด้านความสุขในการดำเนินชีวิต การแก้ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และการแก้ปัญหาเศรษฐกิจในอีก 3 เดือนข้างหน้า จะเพิ่มขึ้น คิดเป็นร้อยละ 32.80
32.10 และ 36.10 ตามลำดับ
สิ่งที่ประชาชนส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบ และต้องการให้รัฐบาลใหม่ดำเนินการอย่างเร่งด่วน คือ 1) การช่วยลดค่าไฟฟ้าและสาธารณูปโภค 2) การเพิ่มบำนาญผู้สูงอายุ 3) การเพิ่มสวัสดิการแก่ประชาชนทั่วหน้า และ 4) การปราบการทุจริตและคอรัปชั่นของหน่วยงานภาครัฐ