ผู้ตรวจการแผ่นดินระดมสรรพกำลังร่วมสร้างเส้นทางชีวิตแก่เด็กไทยที่ไร้โอกาสไม่ได้เรียนต่อหลังจบการศึกษาภาคบังคับ
ผู้ตรวจการแผ่นดินเดินหน้าระดมสรรพกำลัง 14 จังหวัดภาคใต้ หวังผลผลักดันโครงการเพิ่มทักษะด้านอาชีพ แก่นักเรียนครอบครัวยากจนที่ไม่ได้เรียนต่อหลังจบการศึกษาภาคบังคับต่อเนื่องในปีงบประมาณ 2564 หลังพบสถิตินักเรียนทั่วประเทศเรียนจบชั้น ม.3 แล้วไม่ได้เรียนต่อในปีการศึกษา 2563 สูงถึง 20,781 คน โดยเฉพาะในเขตภาคใต้มีจำนวนมากถึง 2,662 คน พร้อมจัดสัมมนาองคาพยพในวันที่ 8 ตุลาคม 2563 ณ โรงแรม ลี การ์เด้นส์ พลาซ่า อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เผยกรมพัฒนาฝีมือแรงงานเตรียมงบประมาณรองรับนักเรียนทั่วประเทศกว่า 21 ล้านบาท เข้าฝึกวิชาชีพต่ออีก 6 เดือน เริ่มปีงบ 64 นี้
นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ตรวจการแผ่นดิน กล่าวว่า โครงการเพิ่มทักษะด้านอาชีพแก่นักเรียนครอบครัวยากจนที่ไม่ได้เรียนต่อหลังจบการศึกษาภาคบังคับ เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2561 โดยการบูรณาการความร่วมมือระหว่างหน่วยงานของรัฐในการเพิ่มทักษะด้านอาชีพให้กับเด็กนักเรียนครอบครัวยากจนและมีความจำเป็นต้องเข้าสู่ตลาดแรงงานทันทีที่เรียนจบ ม.3 จากแรงงานไร้ฝีมือได้อัตราค่าจ้างขั้นต่ำกลายเป็นแรงงานมีฝีมือได้ค่าจ้างที่สูงขึ้น สามารถสร้างอาชีพสร้างรายได้หาเลี้ยงครอบครัวให้มีความเป็นอยู่ที่ดี ซึ่งจากการดำเนินงานที่ผ่านมาได้นำร่องโครงการที่จังหวัดแม่ฮ่องสอนประสบผลสำเร็จเป็นที่น่าพอใจ จากนั้นได้ขยายโครงการออกไปทั่วประเทศภายใต้ความร่วมมือของหน่วยงานส่วนกลางประกอบด้วย สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน กระทรวงมหาดไทย กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กรมการจัดหางาน โดยมีคณะกรรมการขับเคลื่อนโครงการฯ ในระดับจังหวัดประกอบด้วยผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นประธาน รองผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นรองประธาน หัวหน้าส่วนราชการและผู้อำนวยการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตลอดจนองค์กรเอกชน เป็นกรรมการ ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาฝีมือแรงงานจังหวัด เป็นกรรมการและเลขานุการ
ซึ่งทุกจังหวัดได้เริ่มดำเนินโครงการในปีงบประมาณ 2563 เป็นปีแรก พร้อมคู่มือการดำเนินงาน 12 ขั้นตอน และแนวทางการขับเคลื่อนอย่างครบวงจรตั้งแต่กระบวนการต้นน้ำ ได้แก่การสำรวจหาเด็กนักเรียนที่ไม่ได้เรียนต่อ ม.3 และเชิญชวนให้สมัครเข้าร่วมโครงการ กระบวนการกลางน้ำ ได้แก่ การฝึกอบรมทักษะด้านอาชีพก่อนเข้าสู่ตลาดแรงงานและสนับสนุนเงินสงเคราะห์ระหว่างฝึกอบรม จนถึงกระบวนการปลายน้ำ ได้แก่การสำรวจและเตรียมตำแหน่งงานว่างรองรับเด็กที่ผ่านการฝึกอบรม จากผลการสำรวจข้อมูลของเด็กนักเรียนจากการดำเนินโครงการในปีที่ผ่านมาพบว่ามีนักเรียนจบการศึกษาภาคบังคับทั่วประเทศจำนวน 489,012 คน เรียนต่อในระบบ จำนวน 468,231 คน ไม่ได้เรียนต่อ จำนวน 20,781 คน, และมีแนวโน้มมากขึ้นในทุก ๆ ปี ดังนั้น เพื่อให้โครงการขับเคลื่อนต่อไปได้อย่างปราศจากปัญหาและอุปสรรคจึงกำหนดให้มีการประชุมสรุปผลการดำเนินงานในปี 2563 พร้อมชี้แจงแนวทางและข้อเสนอแนะการดำเนินโครงการฯ ในปีงบประมาณ 2564 แก่คณะกรรมการขับเคลื่อนโครงการฯ และเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในระดับจังหวัดทั่วประเทศ อันจะส่งผลดีต่อการดำเนินงานให้เกิดประสิทธิภาพและบรรลุเป้าหมายโดยเริ่มจาก 14 จังหวัดภาคใต้ ซึ่งมีรายงานจำนวนนักเรียนจบการศึกษาภาคบังคับ จำนวน 73,598 คน เรียนต่อในระบบ จำนวน 70,936 คน ไม่ได้เรียนต่อ จำนวน 2,662 คน
ด้าน พ.ต.ท. กีรป กฤตธีรานนท์ เลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน กล่าวว่า การประชุมในวันนี้มีผู้เข้าร่วมสัมมนากว่า 200 คน ซึ่งได้รับความร่วมมืออย่างดียิ่งจากจังหวัดสงขลา ในฐานะเจ้าบ้าน จากนั้นเป็นการสรุปผลการดำเนินโครงการฯ ในปีงบประมาณ 2563 เพื่อทราบถึงสถิติการดำเนินโครงการของทุกจังหวัด และจังหวัด
ที่ยังไม่ได้จัดการฝึกอบรมเพิ่มทักษะด้านอาชีพ ข้อเสนอแนะการดำเนินงานในปีงบประมาณ 2564 ปฏิทินดำเนินงาน แนวทางการสนับสนุนจากหน่วยงานส่วนกลาง และวิธีใช้ระบบรายงานผลการดำเนินโครงการฯ (VSEP) เมื่อเสร็จสิ้นภารกิจในภาคใต้ครั้งนี้จะดำเนินการจัดประชุมชี้แจงคณะกรรมการขับเคลื่อนโครงการฯ และเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในระดับจังหวัดพร้อมกัน3 ภาค(ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) ในวันที่ 20 – 21 ตุลาคม 2563 ณ โรงแรมเซ็นทรา บาย เซ็นทารา ศูนย์ราชการและคอนเวนชันเซ็นเตอร์ กรุงเทพมหานคร
นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต กล่าวทิ้งท้ายว่า ทุกหน่วยงานได้ตั้งใจและร่วมกันบูรณาการการแก้ไขปัญหาให้กับเด็กนักเรียนกลุ่มดังกล่าวโดยในปีงบประมาณ 2564 กรมพัฒนาฝีมือแรงงานได้รับการจัดสรรงบประมาณจากสำนักงบประมาณ เพื่อใช้สนับสนุนการขับเคลื่อนโครงการจำนวน 21,604,300 บาท และเมื่อสิ้นสุดโครงการในปี 2564 สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินจะสรุปรายงานพร้อมจัดทำข้อเสนอแนะต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อทราบและให้การสนับสนุนหน่วยงานของรัฐได้ปฏิบัติหน้าที่ให้ครบถ้วนตามรัฐธรรมนูญ หมวด 5 หน้าที่ของรัฐ ที่ได้บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันต่อไป